Showing posts with label ร้านแว่นตานครทอง. Show all posts
Showing posts with label ร้านแว่นตานครทอง. Show all posts

193: 4 ปีผ่านไปกลับมาที่ ร้านแว่นตา "นครทอง" อีกครั้ง หลายเรื่องเปลี่ยนไป เมื่อ 27-07-58

สวัสดีครับเพื่อนๆ เวลาผ่านไปเกือบ 4 ปี สายตาผมมีการเปลี่ยนแปลง เดาทางเอาเองว่าน่าจะสั้นลง แต่ก็ยังแปลกใจอีกอย่างคือ เวลาอ่านหนังสือต้องเอาแว่นตาออกถึงจะมองชัด อาการนี้ก็น่าจะประมาณคนแก่สายตายาว ดังนั้น ในสมองก็นึกถึง "ร้านแว่นนครทอง" ตรงท่านน้ำนนท์ เหมือนเดิม สิ่งที่เปลี่ยนไปอีกเรื่องคือ ผมไม่มีคนขับรถประจำเหมือนก่อน ผมจึงต้องนัดหมายน้องอาสาปอเต็กตึ้งเจ้าประจำเสียก่อน เบอร์โทรร้านก็ง่ายๆ เสริช์อินเตอร์เน็ตว่า "ร้านแว่นตานครทอง" ได้เบอร์ 02-525-0.972  โทรนัดเรียบร้อยและเข้ามาวัดสายตาเมื่อ 27 กรกฎาคม 2558 ครั้งนี้คงต้องวัดสายตา เพราะครั้งที่แล้วไม่ได้วัด รู้ตัวว่าสายตาคงเดิม

เหตุที่สายตาเปลี่ยนแปลง เนื่องจาก เมื่อปี 2556 ผมได้ทุนเรียนปริญญาโท ต้องอ่านหนังสือมากขึ้น คือมาเรียนตอนอายุเยอะแล้ว ทำให้ใช้สายตามาก ช่วงหลังงานก็เยอะมาก ออกไปทางกึ่งงานวิจัย ทำให้งานเอกสารก็เยอะเช่นกัน ดังนั้น แว่นตาจึงสำคัญมากๆ อีกทั้งสารเคลือบที่แว่นก็เสื่อมมากแล้ว เป็นลายเหมือนใยแมงมุม ทำให้เวลาทำงานหน้าคอมพิวเตอร์มากๆ จะตาลาย กอปรกับช่วงวันหยุดยาว อาฬหบูชา-เข้าพรรษา ปี 2558 นี้ ผมต้องทำงานเอกสารให้เสร็จให้ได้ จึงต้องมาที่ร้านแว่นตานครทองให้ได้ครับ ตั้งใจอย่างนั้น



เข้าไปนั่งวัดสายตาในห้องวัดสายตา คิดถึงบรรยากาศเก่าๆ


ถ่ายภาพกับทายาท รุ่น 3 คุณก่อน ที่จบปริญญาเอกด้านสายตาโดยเฉพาะ/ ภรรยาคุณก่อน บอกผมว่าในประเทศไทย มีไม่กี่คน ดังนั้นถ้าเพื่อนๆ มาวัดสายตาที่นี่ ก็เชื่อมมั่นได้ว่า เท่ากับคุณมาหาผู้รู้ไปด้วยในตัว

เมื่อมาถึงที่ร้านแว่นตานครทอง แล้วนั่งพูดคุยกับทุกคนในร้าน ดีใจมากทีเมื่อ 4 ปีก่อนที่ผมเคยมาอีกครั้งแล้วกลับไปเขียนบทความถึงร้านแว่นตานครทอง ปรากฏว่า บทความนั้นทำให้มีลูกค้าที่อ่าน แล้วเจาะจงมาที่ร้านเพื่อตัดแว่นตา ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาหลายปี ซึ่งที่ร้านบอกว่า เป็นความพิเศษ เนื่องจากปัจจุบันที่ท่าน้ำนนท์ มีร้านแว่นตาเกือบ 10 ร้าน ดังนั้น ลูกค้าใหม่ จึงถือว่าเป็นลูกค้ากลุ่มพิเศษอย่างมาก แค่ได้ฟังส่วนตัวก็แอบปลื้มไปด้วย ดังนั้นแล้วในครั้งนี้ผมเองก็ยังคงทำตามที่ตั้งใจไว้เหมือนเดิม ให้มีเรื่องเล็กๆ ในชีวิตที่สมบูรณ์แบบ คือ การใช้บริการร้านแว่นตานครทอง แห่งเดียวไปจนกว่าจะเสียชีวิตครับ

อีกเรื่องที่ทราบจากคุณก่อน คือคุณพ่อ ไม่สบาย พักรักษาตัวที่บ้าน จึงตั้งใจเลยว่าจะต้องไปเยี่ยมที่บ้านให้ได้ นึงถึงตอนที่ผมอยู่โรงพยาบาลแล้ว รุ่นคุณพ่อ-คุณแม่ ไปเยี่ยที่โรงพยาบาลครับ เป็นความสัมพันธ์ที่แปลก คือ ไม่ใช่ญาติ แต่ก็ผูกพันครับ

บทความด้านความรู้สึก ทัศนคติ ที่ผมอยากแชร์ให้ทุกท่านได้อ่านครับ (4)


111 : บทความชุด “ผมกำลังจะกลายเป็นผู้ประสบภัย” ตอนที่ 60 @ 28 พฤศจิกายน 2554 ชื่อตอน "ถุงยังชีพมีแบรนด์ ต้องอย่างนี้ครับ ศปภ." : สวัสดีครับเพื่อนๆ บทความตอนนี้ ผมขอล้วนๆ เกี่ยวกับถุงยังชีพ จะนับเป็นตอนที่ 2 จากตอนแรกที่เอ่ยถึงถุงยังชีพ (ตอนที่ 100) ซึ่งไม่ได้เป็นถุง จำได้ว่าเรื่องถุงยังชีพ ศปภ. กำลังดังเลย และแล้วที่บ้านก็ได้รับถุงยังชีพของจริง เป็นของทหารเรือ เสียด้วยครับ เลยถ่ายภาพของทั้งหมดในถุงมาฝากให้ได้ชมกันครับ พร้อมกับเก็บถุงไว้เป็นที่ระลึก สีชอบด้วยครับ "สัน้ำเงิน" ส่วนสิ่งของก็มีถึง 15 รายการครับ แต่ที่เห็นในภาพนั้นไม่ครบนะครับ เพราะว่าตอนที่ได้รับมานั้น ถูกกระจายไปแล้ว รวมถึงเข้าท้องไปด้วยครับ น่าจะเป็นไมโลกล่อง กับไมโลซองครับ จึงไม่มีในภาพครับ .....อ่านต่อ


110 : บทความชุด “ผมกำลังจะกลายเป็นผู้ประสบภัย” ตอนที่ 59 @ 28 พฤศจิกายน 2554 ชื่อตอน "ฉลองครบรบ 10 ปีที่ได้มีโอกาสมาเป็นคนพิการทุพพลภาพด้วยการทำงานเช่นเดิม" : สวัสดีครับเพื่อนๆ วันนี้เป็นวันที่ 28 พฤศจิกายน 2554 สำหรับผมแล้วเป็นวันธรรมดาๆ อีกวันหนึ่งที่เมื่อ 10 ปีก่อน (28 พ.ย. 2544) ตอนประมาณ 04.15 น. ผมประสบอุบัติเหตุรถคว่ำ จากสาเหตุหลับใน จนกระดูกคอหัก และได้มีโอกาสกลายเป็นคนพิการทุพพลภาพ เช่นปัจจุบันนี้ครับ ไม่มีการระรึกถึง ไม่มีเรื่องน่าเศร้าเสียใจ หรือมีความพิเศษใดๆ ในทรรศนะของผม อาจจะเป็นความบังเอิญที่ลงตัวตรงที่ว่า พี่ไพบูลย์เข้ามาคุยงานกับผม แน่นอนว่าพี่ไพบูลย์ก็ต้องนั่งเรือเข้ามาเช่นกัน (อากู๋ออกไปรับ) แต่ไม่ต้องวิบากมากเพราะว่าน้ำลงไปเยอะแล้วเหลือเพียง 78 ซม. เท่านั้นเองครับ (ที่บอกว่าเท่านั้นเองก็เพราะว่า ระดับน้ำเคยสูงถึง 1.50 เมตรครับ) .....อ่านต่อ


109 : บทความชุด “ผมกำลังจะกลายเป็นผู้ประสบภัย” ตอนที่ 58 @ 27 พฤศจิกายน 2554 ชื่อตอน "ชุดกันน้ำที่ควรต้องให้ความสำคัญในการฟื้นฟู" : สวัสดีครับ เพื่อนๆ ตอนนี้ระดับน้ำนอกกำแพงบ้านอยู่ที่ 80 ซม. ครับ ผมลองหลับตานึกถึงการทำความสะอาดตอนน้ำลด จะทำอย่างไร พอนึกย้อนหลังมาถึงตอนที่น้ำท่วมที่กำลังดำปี๋ กลิ่นเหม็นเน่ามากขึ้น เพราะคงเข้มข้นมาก เป็นทั้งตะกอนและขี้เลนที่เหม็นเน่าจากแก๊สมีเธน (แก๊สไข่เน่า) ประมาณว่าสัก 10-30 ซม. คงเป็นช่วงเวลาแบบกั๊กๆ กันอยู่ ซึ่งแน่นอนว่า เราก็คงต้องมีคนเข้าๆ ออกๆ บ้าน โดยเฉพาะผม ที่อยากออกนอกบ้านแล้วครับ เพราะมีงานคั่งค้างพอสมควร คิดไป คิดมา คงต้องเตรียมตัวเหมือนกัน เพราะจะรอน้ำแห้งแล้วถึงทำทุกสิ่ง ทุกอย่าง คงเป็นไปไม่ได้ .....อ่านต่อ


108 : บทความชุด “ผมกำลังจะกลายเป็นผู้ประสบภัย” ตอนที่ 57 @ 24 พฤศจิกายน 2554 ชื่อตอน "อาหารจานหลักของว่าที่ผู้ประสบภัย" : สวัสดีครับ เพื่อนๆ ในระหว่างที่เป็นว่าที่ผู้ประสบภัยอยู่นี้ ผมอาจจะไม่เคยนำเสนอข้อมูลสำคัญของมนุษย์เรา ซึ่งก็ไม่ได้จำเพาะว่า จะต้องเป็นผู้ประสบภัย หรือไม่ ก็คือการทานอาหาร ทานข้าว นั่นเองครับ ผมมักบอกกับผู้ประสบภัยบ่อยๆ ตอนโทรคุยเพื่อสอบถามข้อมูล ว่า "ในฐานะผู้ประสบภัย ควรลดการทานเหลือเพียง 2 มื้อ และถ้าไม่มีใครบริจาค ก็ควรทานอาหารง่ายๆ ไว้ก่อน หากไม่มีของแห้ง หรือเครื่องกระป๋อง" ซึ่งจริงๆ แล้วก็เป็นการทานแบบพอดี และเหมาะสมกับสภาวะที่ต้องรู้จักลดความสะดวกเดิมๆ ลง ตอนนี้ผมจึงขอแนะนำเมนูต่างๆ ที่บ้านผมทำให้ทานครับ .....อ่านต่อ


107 : บทความชุด “ผมกำลังจะกลายเป็นผู้ประสบภัย” ตอนที่ 56 @ 24 พฤศจิกายน 2554 ชื่อตอน "ตัดเล็บเองครั้งแรกในรอบ 10 ปีทั้ง 10 นิ้วครับ" : สวัสดีครับเพื่อนๆ ในระหว่างที่ผมติดน้ำท่วมในบ้าน ในช่วงมหาอุทกภัย 54 นั้น มีเรื่องราวเกิดขึ้นกับผมมากมาย รวมถึงวันนี้ด้วยนะครับ ที่ผมสามารถตัดเล็บเองทั้ง 10 นิ้ว ผมเคยตัดเล็บได้เองเฉพาะนิ้วโป้ง เพราะนิ้วใหญ่สุด มีเล็บใหญ่ ตัดง่าย และเนื่องจากผมต้องรอน้องสาวมาตัดเล็บให้ แต่ว่าน้องสาวทั้ง 2 คนยังไม่กลับเข้ามา ส่วนลูกพี่ลูกน้องกันสายตาไม่ดี เป็นโรคทางสายตาชนิดหนึ่ง จึงไม่กล้าตัดให้ ประกอบกับเล็บที่ยาวมากทำให้เกะกะไปเสียทุกอย่าง ส่วนตัวก็ไม่ชอบเล็บยาวอยู่แล้วด้วยครับ จึงเหลือทางเดียว คือผมต้องลองตัดเล็บเองครับ .....อ่านต่อ


106 : บทความชุด “ผมกำลังจะกลายเป็นผู้ประสบภัย” ตอนที่ 55 @ 22 พฤศจิกายน 2554 ชื่อตอน "มีกิ่งไม้งอกออกมาจากต้นยูคาลิปตัสที่นำมายันกำแพงครับ" : สวัสดีครับเพื่อนๆ บทความนี้ผมขอนำภาพบรรยากาศบางส่วนภายในบ้านมาฝากนะครับ แล้วไปลงท้ายที่มีการงอกของกิ่งต้นไม้ครับ งั้นเริ่มจากรายงานระดับน้ำนะครับตอนนี้ลดลงมาอยู่ที่ 90 ซม. ส่วนตัวถือว่าลดลงมามากนะครับ ถ้าเทียบกับ 1.50 เมตรเมื่อตอนที่ระดับน้ำสูงสุด มั่นใจได้แล้วว่ากำแพงไม่มีทางพังเข้ามาแน่นอน แต่ยังวางใจไม่ได้เรื่องไฟฟ้าดับ จากทุกสาเหตุจนทำให้ปั๊มไดโว่ ไม่ทำงานจนในที่สุดน้ำท่วมบ้านจากการซึมเขามา ซึ่งขณะนี้อัตราการซึมนั้นต่ำลงมากว่า 5 ชั่วโมง ถึงจะเริ่มสูบน้ำออกได้ครับ พื้นถนนโดยรอบเต็มไปด้วยตระไคร้สีเขียวครับ .....อ่านต่อ


105 : บทความชุด “ผมกำลังจะกลายเป็นผู้ประสบภัย” ตอนที่ 54 @ 19 พฤศจิกายน 2554 ชื่อตอน "น้ำท่วมกับเกาหลี เกี่ยวกันยังไง เอาแบบฮาๆ ครับ" : สวัสดีครับเพื่อนๆ ในระหว่างที่น้ำท่วมกำลังลดลงอยู่นี้ รายงานระดับน้ำอยู่ที่ 1.05 เมตร ผมก็ได้ดำเนินการโครงการต่างๆ ควบคู่ไปด้วย 3 โครงการ คือ โครงการ "ถุงยังชีพถาวร เพื่อการฟื้นฟูอาชีพผู้ประสบภัย" โครงการ "สคส.จากใจและความพยายามของคนพิการ" โครงการ "Hygro 3 in 1 ฟื้นฟูเกษตรพื้นที่ประสบภัย" แล้วก็ยังนึกๆ อยู่ว่า จริงๆ แล้วในภาวะน้ำท่วมเราควรที่จะมีเรื่องฮาๆ ขำๆ บ้างนะ ประเทศไทยจะได้คลายเครียดบ้าง ตัวอย่างที่เห็นว่ามีแล้ว ก็เรื่องราวนิยายความรัก 3 เส้า ของ น้องน้ำ น้องทราย และพี่กรุง .....อ่านต่อ


103 : บทความชุด “ผมกำลังจะกลายเป็นผู้ประสบภัย” ตอนที่ 52 @ 15 พฤศจิกายน 2554 ตอน "การดำเนินโครงการระหว่างน้ำท่วม ตอนที่ 2/3 : การเตรียมงาน สคส. อวยพรปีใหม่ 2012" : สวัสดีครับ เพื่อนๆ ผมและครอบครัวติดเกาะเป็นวันที่ 35 แล้วครับ ในความรู้สึกของผม สถานการณ์อยู่ในเกณฑ์ไม่น่าพอใจ เพราะว่าระดับน้ำไม่ลดลงจากเดิมสักเท่าไหร่ อยู่ที่ 1.10 เมตร แต่ผมก็ยังคงต้องดำเนินงานตามที่วางแผนไว้ให้เป็นไปตามที่ได้แบ่งงานกันกับพี่ไพบูลย์ ซึ่งสำหรับบทความนี้อยากเขียนถึงการเตรียมงาน "สคส. อวยพรปีใหม่ 2012" ที่เป็นภาพฝีมือของคนพิการทั้ง 4 คนจาก โครงการ "7 คนพิการไทย ส่งใจผ่าน 84 งานจิตกรรม ทำความดีถวายในหลวง" .....อ่านต่อ


102 : บทความชุด “ผมกำลังจะกลายเป็นผู้ประสบภัย” ตอนที่ 51 @ 13 พฤศจิกายน 2554 ชื่อตอน "การดำเนินโครงการระหว่างน้ำท่วม ตอนที่ 1/3 : โครงการถุงยังชีพถาวร เพื่อการฟื้นฟูอาชีพผู้ประสบภัย" : สวัสดีครับ เพื่อนๆ ในระหว่างเวลานี้ ระดับน้ำท่วม ไม่ลดลงเลย ยังคงอยู่ที่ระดับ 1.20 เมตรมานานกว่า 1 สัปดาห์แล้ว ซึ่งทำให้ผมรู้สึกหงุดหงิดมากๆ กับการทำงานของภาครัฐระดับท้องถิ่น และตัวผมคงยังทำะไรมากไม่ได้ ในภาวะปกติไม่ว่าจะอยู่ในสภาพคนไม่พิการ หรือคนพิการ ผมก็มักถูกมองว่า มีความกระตือรือล้นเกินพอดีอยู่แล้ว จึงไม่อยากนำบรรทัดฐานของตัวเอง ไปบอกว่าใครถูก ใครผิด ทำเท่าที่ตัวเองทำได้ จึงอยากนำงานโครงการที่กำลังทำอยู่มาแบ่งปันให้เพื่อนๆ ทราบครับ เกี่ยวกับโครงการ "ถุงยังชีพถาวร เพื่อการฟื้นฟูอาชีพผู้ประสบภัย" .....อ่านต่อ


101 : บทความชุด “ผมกำลังจะกลายเป็นผู้ประสบภัย” ตอนที่ 50 @ 9 พฤศจิกายน 2554 ชื่อตอน "รากเหง้าจิตอาสา" : สวัสดีครับเพื่อนๆ วันนี้อยู่ดีๆ ผมก็อยากพิมพ์บทความ "รากเหง้าของจิตอาสา" ขึ้นมาซะงั้น อาจจะเป็นเพราะว่า เมื่อคืนผมได้มีโอกาสพูดคุยกับผู้ประสบภัยท่านหนึ่งประมาณ 2 ชั่วโมง ผมรับฟังเป็นหลักเพื่อให้เขาได้ระบายความอัดอั้นตันใจ บางช่วงเขาก็ร้องไห้ ระหว่างที่คุยผมตัดสินใจบอกเขาว่า ผมเป็นคนพิการ เขาประทับใจ และในระหว่างที่คุยเขารู้เพิ่มว่า ผมไม่ได้พิการแบบธรรมดา พอทราบว่าผมทุพพลภาพ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ทางด้านร่างกาย เขาขอบคุณมากมาย และยิ่งรับไม่ได้กับความเห็นแก่ตัวของผู้ประสบภัยส่วนใหญ่ .....อ่านต่อ


100 : บทความชุด “ผมกำลังจะกลายเป็นผู้ประสบภัย” ตอนที่ 49 @ 7 พฤศจิกายน 2554 ชื่อตอน "(ไม่ได้เป็น) ถุงยังชีพ จากใครก็ไม่รู้" : สวัสดีครับเพื่อนๆ เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2554 เริ่มมีข่าวการคอรัปชั่นถุงยังชีพของ ศปภ. ที่มีถึง 3 มูลค่า คือ 300, 500 และ 800 บาท โดยมีข่าวการเผยแพร่ในอินเตอร์เน็ต ผมสังเกตุเอาเองว่า ศปภ. นั้นมักต้องออกมาแก้ข่าว หรือแถลงข่าว ตอบโต้ข้อกล่าวหา ที่เป็นผลจากการเผยแพร่ใน Social Network ส่วนตัวยอมรับว่า อินเตอร์เน็ตนั้นเริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้นทุกทีในประเทศไทย โดยเฉพาะในเหตุการณ์มหาอุทกภัย 2554 ในครั้งนี้ครับ .....อ่านต่อ


99 : บทความชุด “ผมกำลังจะกลายเป็นผู้ประสบภัย” ตอนที่ 48 @ 8 พฤศจิกายน 2554 ชื่อตอน "เสนอแนวทางการป้องกันระดับหมู่บ้าน หรือกลุ่มบ้าจัดสรร" : สวัสดีครับ เพื่อนๆ จริงๆ แล้วบทความนี้ผมลังเลอยู่นานว่าจะเขียนดีหรือไม่ เป็นเรื่องแนวทางการป้องกันน้ำท่วมสำหรับบ้านจัดสรร ที่ผมเองก็รู้สึกหงุดหงิดมาก เนื่องจากผมดูภูมิทัศน์ของหมู่บ้านผ่าน Google Earth แล้ว คิดว่าสามารถป้องกันได้อย่างไม่ยากเย็นเลย แล้วทำไมประธานหมู่บ้านถึงไม่ป้องกัน ทั้งๆ ที่มีเงินส่วนกลางอยู่ หรือแม้แต่จะลงขันกันป้องกันก็ยังได้ ถ้าเปรียบเทียบกับน้ำท่วมเข้าบ้าน แล้วต้องมาซ่อมบำรุงทีหลัง แต่ผู้ใหญ่ 2 ท่านบอกว่า ให้ผมเขียนสิ คนที่เขารู้แล้ว ก็ช่างเขา เขาก็ไม่อ่าน แต่ถ้าคนไหนไม่รู้ คิดไม่ถึง จะได้รู้ ได้แนวคิดไปแก้ปัญหาในโอกาสต่อไปหากมีน้ำท่วมเข้ามาอีก .....อ่านต่อ

98 : บทความชุด “ผมกำลังจะกลายเป็นผู้ประสบภัย” ตอนที่ 47 @ 4-6 พฤศจิกายน 2554 ชื่อตอน "สวนสัตว์ประจำน้ำท่วม 3 ตัวต่อมา" ครับ : สวัสดีครับ ดังที่คาดเมื่อตอนที่ 23 ผมได้อ้างถึงสัตว์ 3 ตัวที่แวะเวียนมาที่บ้าน คราวนี้มีมาเพิ่มอีก 3 ตัวครับ ล้วปิดท้ายด้วยอีก 18 ตัว มาที่สัตว์ต่างถิ่นที่มาช่วงหน้าน้ำท่วมนะครับ ตัวแรกคือ งูสีดำๆ ตัวยาว 2 เมตรครับ น้อสาว (ลูกพี่ลูกน้อง) อีกคนหนึ่งเล่าให้ฟัง แล้วมันก็เลื้อยเข้าไปหลังศาลพระภูมิ พอเรียกทุกคนไปดู มันก็หายไปแล้ว จึงทำให้ทุกคนต้องคอยระวังกันไปเกือบ 2 วันครับ แล้วเราก็สรุปไม่ได้ว่าเป็นงูอะไร บ้างก็ว่างูเห่า เพราะสีเข้มๆ เกือบดำ แต่น้องสาวบอกว่าเลื้อยบนไม้ พ่อน้องเขยเลยว่า น่าจะเป็นงูสิงห์ มากกว่า ถือว่าเป็นงูน้ำชนิดหนึ่ง .....อ่านต่อ


97 : บทความชุด “ผมกำลังจะกลายเป็นผู้ประสบภัย” ตอนที่ 46 @ 7 พฤศจิกายน 2554 ชื่อตอน "ทำงานตอนน้ำท่วม" :สวัสดีครับเพื่อนๆ บทความนี้ผมเขียนแทนครอบครัวน้องสาวคนเล็กที่ทั้งคู่ ยังคงต้องออกไปทำงานนอกบ้านทั้งคู่ คือ น้องสาวเป็นอาจารย์สอนนักศึกษาระดับปริญญาตรี น้องเขยทำงานให้กับค่าสื่อสารค่ายหนึ่ง ซึ่งทางบริษัทที่น้องเขยืำงานอยู่ได้ประกาศว่าจะเช้าห้องพักให้แถวรัชดา ทั้งคู่จึงออกไปดูห้องเช่าด้วยกัน เพราะถ้าห้องสามารถอยู่เป็นครอบครัวได้ น้องสาวก็จะอาศัยนอนด้วยเพื่อไปทำงานเตรียมการสอนก่อนมหาวิทยาลัยจะเปิด และจะกลับเข้ามาในวันรุ่งขึ้น แต่น้องเขยคงอยู่เลย .....อ่านต่อ



96 : บทความชุด “ผมกำลังจะกลายเป็นผู้ประสบภัย” ตอนที่ 45 @ 6 พฤศจิกายน 2554 ชื่อตอน "น้ำท่วมลดลง กับนางพยาบาลที่ช่วยดูแลมาตลอด 10 ปีครับ" : สวัสดีครับเพื่อนๆ บทความนี้ขอเริ่มจากปริมาณน้ำท่วมทยอยลดลงอย่างต่อเนื่อง (ตามรายงานการจดบันทึกในลิงก์นี้นะครับ) ณ วันที่ 6 พฤศจิกายน 2554 ลดลงเหลือ 1.30 เมตร เท่ากับว่าลดลงไปแล้ว 20 เซนติเมตร ซึ่งดูได้จากขอบกำแพงที่ลดลงจนเห็นคราบบนกำแพง (นำภาพมาฝากด้วยครับ) และเรื่องสำคัญในวันนี้คือ การรอคอยนางพยาบาล ที่ช่วยดูแลผมเป็นระยะๆ มากว่า 10 ปีแล้ว ตั้งแต่ตอนที่ไปรักษาที่โรงพยาบาลพญาไท 1 เพราะการที่จะมาช่วยเปลี่ยนสายสวนให้ ในภาวะน้ำท่วมนี้ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย .....อ่านต่อ


95 : บทความชุด “ผมกำลังจะกลายเป็นผู้ประสบภัย” ตอนที่ 44 @ 5 พฤศจิกายน 2554 ชื่อตอน "ไฟฟ้านครหลวงไม่ได้ตัดไฟ แต่ถ้าหม้อแปลงระเบิดจะทำไงดีละทีนี้" : สวัสดีครับ เพื่อนๆ ในชีวิตของความเป็นคน เรามักจะต้องพบเจอกับเรื่องไม่คาดฝัน หรือไม่คาดคิดตลอดเวลาอยู่แล้ว ไม่เว้นแม้แต่ภาวะน้ำท่วม พวกเราป้องกันน้ำท่วมเข้าตัวบ้านกันอย่างเต็มที่จนผ่านจุดอันตรายที่ระดับความสูงของน้ำท่วมนอกรั้วบ้าน 1.50 เมตรมาได้แล้ว จนปัจจุบันอยู่ที่ 1.30 เมตร แต่เรื่องไม่คาดคิดก็สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลานะครับ ประมาณ 11.30 น. เกิดไฟฟ้าดับ แน่นนครับ เราไม่ได้โดนการไฟฟ้านครหลวงมาตัดไฟ เช็ค 1130 ไฟฟ้าดับเป็นวงกว้างมาก เกิดจากการปรับปรุงระบบไฟฟ้า (1130 ว่างั้น) .....อ่านต่อ



94 : บทความชุด “ผมกำลังจะกลายเป็นผู้ประสบภัย” ตอนที่ 43 @ 4 พฤศจิกายน 2554 ชื่อตอน "สายสวนตันขณะเป็นผู้ประสบภัยน้ำท่วม 2554" : สวัสดีครับ เพื่อนๆ บทความนี้ผมก็กำลังอยู่ในช่วงภาวะภัยพิบัติน้ำท่วม 2554 อยู่นะครับ ซึ่งบทความนี้จะพิเศษตรงที่จะวางอยู่ในบล็อก Preeda Stationต่างจากบทความทั้งหมดที่ถกวางใน Preea no iken dezu.ครับ เพราะว่าเป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับอาการเจ็บป่วยจากความพิการ เรื่องมีอย่ว่า (ขอท้าวความสักนิดนะครับ) ผมเป็นคนพิการทุพพลภาพระดับรุนแรง ค่อนตัว ไม่สามารถใช้มือเท้าทั้ง 4 ได้ จนถึงระดับนิ้วมือ สาเหตุจากคอหัก แน่นอนทำให้ต้องใส่สายสวน 24 ชั่วโมง เพราะขับถ่ายปัสสาวะ อุจจาระไม่ได้ .....อ่านต่อ


93 : บทความชุด “ผมกำลังจะกลายเป็นผู้ประสบภัย” ตอนที่ 42 @ 2 พฤศจิกายน 2554 ชื่อตอน "ไม่ได้ตั้งใจสำรวจตลาดบางบัวทอง" : สวัสดีครับเพื่อนๆ บทความนี้น่าจะเป็นบทความที่มีรูปภาพมากที่สุด เป็นภาพที่ทางน้องเขยถ่ายไว้ระหว่างเดินทางออกจากบ้านไปที่ทำงาน แต่ภาพที่ผมมาลงไว้นี้มีเรื่องราวขำๆ แบบเหนื่อยๆ เข้ากันกับช่วงน้ำท่วมเป็นอย่างมากก็ตรงที่ว่า น้องเขยกับน้องสาว ขึ้นเรือของกองทัพบกที่หน้าโรงพยาบาลชลลดา ซึ่งเป็นเรือขาวิ่งเข้าตลาดบางบัวทอง ในขณะที่กำลังจะตรงเข้าตลาดบางบัวทอง มีผู้โดยสารแจ้งให้เข้าไปส่งในหมู่บ้านชลลดา 2 หลัง ทารจึงเข้าไปส่งก่อน ก็ใช้เวลาเกือบครึ่งชั่วโมง จากนั้นก็ออกมาถึงหน้าหมู่บ้านเลี้ยวซ้ายเข้าตลาดบางบัวทอง .....อ่านต่อ


92 : บทความชุด “ผมกำลังจะกลายเป็นผู้ประสบภัย” ตอนที่ 41 @ 3 พฤศจิกายน 2554 ชื่อตอน "คลิปวีดีโอการเดินทางของคุณแม่เพื่อไปเป็นเพื่อนน้องสาวในการคลอดลูกคนแรกเมื่อ 24 ตุลาคม 2554" : สวัสดีครับเพื่อนๆ ทางน้องเขยผมได้ถ่ายคลิปวีดีโอ เอาไว้ในวันที่คุณแม่ผมกำลังออกเดินทางจากบ้านเพื่อไปเป็นเพื่อนน้องสาวในการคลอดลูกคนแรก และเป็นหลานคนแรกของครอบครัวที่จะทำให้คุณแม่ผมเป็น คุณยาย อย่างสมบูรณ์ ผมพึ่งมาทราบว่าน้องเขยคนเล็กถ่ายเอาไว้ จึงอยากนำมาแบ่งปันให้ได้ดูกันนะครับ ก็มีบรรยากาศโดยรวมๆ หน้าบ้าน 2 คลิป และบรรยากาศขณะนั่งในเรือยนต์ของกองทัพบก (ต้องขอบคุณกองทัพของประชาชนไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะครับ) โดยกำลังมุ่งหน้าไปแยกบางพลู .....อ่านต่อ



91 : บทความชุด “ผมกำลังจะกลายเป็นผู้ประสบภัย” ตอนที่ 40 @ 2 พฤศจิกายน 2554 ชื่อตอน "สำรวจรอบหมู่บ้านครั้งที่ 2 แบบลืมนึกถึงจรเข้ไปแล้วด้วยมั้งครับ" : สวัสดีครับเพื่อนๆ สำหรับบทความนี้ เบาๆ มากเลยครับ นำภาพที่น้องสาวกับน้องเขยไปพายเรือสำรวจรอบหมู่บ้าน แต่เป็นบริเวณที่ลึกที่สุดของหมู่บ้านที่มีพื้นที่ติดกับสำนักงานที่ดินบางบัวทอง ทางทิศเหนือของหมู่บ้านครับ รวมทั้งริมรั้วกำแพงที่สามารถมองออกไปเจอทุ่งกว้างทางด้านตะวันออกของหมู่บ้าน ส่วนด้านตะวันตกทางโครงการจะสร้างดฟสของทาวเฮ้าส์มาติดกับโครงการบ้านเดี่ยว ผมคิดเอาเองว่าน้องเขยคงไม่ได้สนใจเรื่องจรเข้แล้วมั้งครับ ถึงได้พายเรือไปริมๆ ขอบหมู่บ้านได้ในวันนี้ครับ .....อ่านต่อ



อ่านบทความทั้งหมด : 7 .. 6 .. 5 ..  4 .. 3 .. 2 .. 1 

117 : ร้านแว่นตา "นครทอง" ร้านแรกและร้านเดียวในชีวิตครับ


สวัสดีครับ เพื่อนๆ คงทราบดีว่า ผมใส่แว่นตา เพราะรูปภาพของผมทั้งหมดผมใส่แว่นทุกภาพเลยนะครับ แว่นตาจึงเป็นเสมือนส่วนหนึ่งของร่างกาย ผมคิดว่าคนที่สายตาสั้นทุกคนคงเข้าใจดี ปัจจุบันผมสายตาสั้นประมาณ 450 ทั้งสองข้าง สั้นระดับนี้มาเกือบ 10 ปีแล้วครับ และสำหรับบทความนี้ผมอยากเขียนถึง ร้านแว่นตา "นครทอง" ที่อยู่แถวท่าน้ำนนท์ (จ.นนทบุรี) อันเก่าแก่ ที่มีศาลาว่าการจังหวัดนนทบุรีที่มีอายุเป็น 100 ปี ผมค่อนข้างผูกพันกับท่าน้ำนนท์มากพอสมควรนะครับ เพราะว่าสมัยเด็ก เช้ามืดก็ต้องมาซื้อของไปขายกับคุณแม่ที่ตลาดนนท์บ่อยๆ มีเพื่อนสนิทอยู่แถวนี้ มากินอาหารแถวนี้บ่อยๆ


ผมจำไม่ได้แล้วว่า ใครแนะนำให้ผมมาวัดสายตา และตัดแว่นที่ร้านแว่นนครทอง ตั้งแต่ผมอยู่ ม.2 อายุ 13 ขวบ แต่ที่รู้แน่ๆ ก็คือ ผมไม่เคยไปตัดแว่นที่ไหนเลย ผมมาที่นี่แห่งเดียว และยังตั้งใจอีกว่า จะใช้บริการที่นี่ไปจนกว่าผมจะเสียชีวิตไป หากว่าทางร้านในรุ่นที่สองนี้ยังคงเปิดอยู่นะครับ ส่วนตัวผมคิดว่าที่นี่ราคาย่อมเยา สินค้ามีคุณภาพ ผมใช้แล้ว ใช้นาน กรอบไม่แตกหักงง่าย เลนส์ที่เคลือบก็ถนอมสายตาผมได้อย่างดี ถ้าท่านใดสนใจก็ลองเข้าดูที่ http://www.facebook.com/nakornthong.optic เอาเองละกันนะครับ

ถ้าอยากได้ส่วนลด อาจลองบอกทางร้านดูว่า "อ่านจากบทความของผมในอินเตอร์เน็ต ชื่อปรีดา ที่เป็นคนพิการ นั่งรถเข็น" ไม่ทราบว่าลดเท่าไหร่นะครับ คงได้บ้างไม่มากก็น้อยครับ ครอบครัวในตระกูลบ้านผมหลายๆ ครอบครัว รวมกันแล้ว นับเฉพาะที่ใส่แว่น น่าจะ 10 กว่าคน ตัดแว่นที่นี่หมดนะครับ 

ผมยังจำได้ดีว่า เมื่อ 10 ปีก่อนที่ผมนอนรักษาตัวอยู่โรงพยาบาล เจ้าของร้านยังไปเยี่ยมผมด้วยเลยครับ ก็รู้สึกประทับใจกับร้านแว่นตานครทองมากครับ ดังนั้นแล้วในด้านความรู้สึก ก็อยากอุดหนุนที่ร้านนครทอง ให้ถึงที่สุด เท่าที่คนๆ หนึ่งจะทำได้ ถึงแม้หลายๆ เรื่องในชีวิตของมนุษย์เรานั้น อาจจะไม่ได้สำเร็จไปเสียทุกเรื่อง ทุกอย่าง บ้างเรื่องสำเร็จ บางเรื่องล้มเหลว เนื่องจากเราไม่สามารถที่จะกำหนดองค์ประกอบรอบๆ ตัวเราไม่ได้ แต่เรื่องที่เราพอจะทำได้ ผมจะทำ และการใช้บริการที่ร้านนครทองเพียงแห่งเดียวในชีวิตของคนสายตาสั้น นั้นผมตั้งใจไว้แล้ว เรื่องเล็กๆ เรื่องนี้ ผมอยากให้มันสมบูรณ์แบบ (Perfect) 

เมื่อวันที่ 30-12-54 ในขณะที่ผมพยายามจะไปใช้บริการที่ร้านนครทอง สำหรับคนพิการนั่งรถเข็นนั้น ไม่ง่ายเลย ไม่มีที่จอดรถใกล้ร้าน รถติดมาก ต้องเข็นรถเข็นฝ่ารถติด จากจุดที่ต้องจอดห่างไกลจากร้าน ทางแคบ คนขับรถ TAXI ถามผมอย่างหงุดหงิดว่า ทำไมผมไม่ไปตัดแว่นที่อื่น ผมบอกเขาว่า "ผมไว้ใจที่นี่ ผูกพันกับที่นี่ และจะใช้บริการที่นี่เพียงที่เดียว ยังไงก็ช่วยผมหน่อย" เพราะว่าคนที่ลำบากก็คือเขา ที่ต้องพาผมไปนะครับ

ถ่ายคู่กับทายาทรุ่นที่ 2 และอาจจะรุ่นที่ 3 ในอนาคต

ถ่ายอีกครั้งตอนเปลี่ยนอันใหม่ แต่ยังไม่ใส่เลนส์นะครับ ถ่ายไว้ก่อนครับ 
เพราะต้องมาแวะรับอีกทีตอนดึกครับ

ผมไม่เคยแม้แต่จะคิดไปตัดแว่นที่ร้านอื่น ที่มีเกิดขึ้นมากมายเป็นดอกเห็ด แถมร้านนครทองยังอยู่ไกลจากบ้านที่บางบัวทอง เพราะเมื่อก่อนผมอยู่ตรงตลาดศรีเขมา จึงทำให้ใกล้ร้าน ในวันที่ผมไปนั้นมีคนเข้าร้านแน่นมาก ร้านห้องแถวห้องเดียว เทียบกับร้านหรูหรา ที่อยู่ใกล้ๆ กันไม่ได้เลย แต่ผมเชื่อโดยส่วนตัวว่า ทุกคนที่มาร้านนี้ สามารถไว้วางใจในคำพูดของเจ้าของร้านได้ มั่นใจในสินค้าว่าเป็นของแท้ หรือแม้แต่เราจะบอกทางร้านว่า เรามีงบประมาณเท่าไหร่ การรับประกัน หรืออาจจะเรียกว่า การบริการก็ว่าได้ ที่เขาจะดูแลเราไปตลอด เพียงเรามาหาที่ร้านเท่านั้น 

เป็นอีกมุมหนึ่งของผมนะครับ และอีกความรู้สึก ที่อยากแบ่งปันให้กับเพื่อนๆ ครับ

พิมพ์เมื่อ 30 ธันวาคม 2554