สวัสดีครับเพื่อนๆ ผมอาจจะเคยบอกใครต่อใครมากมายเมื่อมีโอกาสว่า คนพิการทุพพลภาพอย่างผมที่ไปไหนมาไหนไม่ได้ นั้นได้เปรียบคนปกติอยู่พอสมควร ตรงที่ว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตามผมก็ไม่สามารถจะดิ้นรน หนีไปไหนได้ ยังคงต้องรอให้คนมาช่วยอยู่ดี ดังนั้นในภาวะการณ์ใดๆ ก็ตาม คนพิการที่ช่วยเหลือใครไม่ได้อย่างผม พอจะช่วยทุกคนในครอบครัวได้ คือ ต้องคิดให้ออกว่า มีจุดไหนบ้างที่จะทำให้น้ำเล็ดลอกเข้ามาได้ในปริมาณมากๆ ก็อาจจะต้องโวยวายทำเสียงดังให้ทุกคนสนใจ จนในช่วงเวลาหนึ่งถึกับต้องพูดออกมาว่า
“ถ้าจะต้องโดนต่อว่า ว่าตื่นตูม โอเวอร์ ดีกว่าได้ยินคำว่า น่าจะเชื่อปรีดา” ผมไม่อยากให้ทุกอย่างมันสายไป แต่คนเราอยู่ร่วมกับผู้อื่น การตัดสินใจของเราคนเดียว ถ้าคนส่วนรวมไม่ยอมรับ ก็ต้องยอมรับเสียงส่วนรวม ดังนั้น ถ้าเรามั่นใจ เราก็ต้องพยายาม การที่เราพยายามพูดแล้วพูดอีก หรือทำท่าโวยวาย เสียงดัง อ้างทฤษฎี อ้างนี่-นั่น-โน่น นั้นผมกลับมีความรู้สึกว่า เหมือนเป็นการทำงาน การทำงานทุกเรื่องต้องใช้ความพยายาม ผมต้องพยายามให้ทุกคนเชื่อในเรื่องราวที่ควรระมัดระวัง
ที่ผมต้องเกริ่นความรู้สึกในตอนนี้ไว้นั้น ก็เพราะว่ามีอีกหลายเรื่องที่ต้องทำ เพื่อป้องกันน้ำท่วมที่ระดับความสูง 2 เมตรนั้น มันยังพอกับสิ่งป้องกันไว้เดิม ส่วนตัวผมเองก็ไม่เคยคิดว่าระดับน้ำท่วมสูง 2 เมตรจะมีพลังทำลายพนังกั้นน้ำหลายแห่ง เช่นในทีวี ที่เราดูๆ กันตามนิคมอุตสาหกรรมใหญ่ๆ ในบ้านเรา
ความเป็นจริงที่เห็นนั้น ถ้าใช้ความรู้สึกตัดสินนั้น อาจมองว่าน่าจะป้องกันได้ แต่ถ้าคิดให้มากกว่านั้นอีกสักนิดหนึ่ง เหมือนว่าเราจะดูถูกน้ำมากเกินไป แล้วน้ำก็ชนะมาโดยตลอด ขณะที่พิมพ์อยู่นี้ กำลังดูข่าวอยู่ และทางราชการก็ประกาศว่า ในเขตพื้นที่อำเภอบางบัวทอง ให้อพยพภายใน 24 ชั่วโมง แต่ที่ระดับความสูง 2 เมตร เรายังคงมั่นใจว่าจะป้องกันได้ ในตอนต่อๆ ไป ผมจะนำภาพที่เรากำลังปรับปรุง เปลี่ยนแปลง เพิ่มเติมการป้องกันมากขึ้น เพราะว่าตอนนี้พนังกั้นน้ำของบางบัวทองทั้ง 3 จุด พังหมดแล้ว
วันนี้พี่ปรเมศวร์ และอีกหลายท่านโทรหาผมเป็นระยะๆ ว่าเป็นอย่างไร เมื่อ 2 วันก่อนดูทุกคนในบ้านจะสบายใจที่รัฐบาลออกมมาพูดว่า มวลน้ำก้อนใหญ่ ผ่านไปแล้ว แต่วันนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไป ทุกคนดูกระตือรือล้นที่จะป้องกันน้ำท่วมเพราะว่าทำกันมาเยอะแล้ว แต่ก็ยังคงมีเรื่องที่ต้องถกเถียงกันอยู่ดีว่าจะทำอย่างไร ในที่สุด ผมก็ทำให้ทุกคนเบื่อเสียงผม แล้วยอมที่จะป้องกันในแบบที่ผมคิด ซึ่งผมจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้ดูและอ่านกัน
เพื่อไม่ให้เสียเที่ยวกับตอนที่ 11 นี้ผมขอพ่วงภาพถ่ายที่เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2554 ทาง อบต. เอาน้ำชีวภาพ มาเท หรือรด ในน้ำท่วมที่กำลังเปลี่ยนสี ถือซะว่าเป็นการ “เก็บตก” ส่งท้ายละกันนะครับ ก็ถือว่าทาง อบต. ได้ทำในสิ่งที่ควรทำ เพื่อใหน้ำชะลอการเน่าเสีย นะครับ




ผมก็หวังว่าจะไม่ได้ทำให้เพื่อนๆ เครียดไปนะครับ กับความรู้สึกมากมายในช่วงน้ำท่วมนี้ครับ
ปรีดา ลิ้มนนทกุล
คนทุพพลภาพมืออาชีพ