143: ความรู้สึกพิเศษกับอาม้าในปีนี้ 2556

สวัสดีครับเพื่อนๆ บทความนี้ผมเองก็ไม่แน่ใจว่าทำไมปีนี้ถึงอยากเขียนถึงอาม้า (คุณแม่) อาจจะเป็นเพราะว่ามีความรู้สึกว่า ปีนี้อาม้าแก่ลงมาก ปีนี้อาม้าผมอายุ 69 ปีแล้ว อาม้าปวดหัวเข่ามาก ต้องไปทำกายภาพบ่อยๆ เดี๋ยวนี้ผมมีรถเอง มีคนขับรถ (ผู้ช่วย) จึงมีโอกาสได้ดูแลบ้าง เวลาเห็นอาม้าเดินแล้วแสดงอาการเจ็บ ในใจมันมีความรู้สึกมากมาย ผมไม่รู้ว่า คนที่ไม่พิการ มีความคิดอย่างไรกับอาจจะหลายๆ คน อาจจะไม่ได้ดูแล หรือไม่ว่างที่จะดูแลแม่ แต่ผมรู้สึกอย่างมาก ผมพิการรุนแรง มันเจ็บใจทุกครั้งที่ก่อนหน้านี้ อาม้าเดินเอาข้าว เอาน้ำมาให้ เดินมาดูว่าจะนอนหรือยัง หรือบางครั้งมานอนเป็นเพื่อน



อาม้าผมเอง ตั้งแต่สาวจนถึงปัจจุบัน 
ดูกันเอาเองนะครับว่าพอมีเค้าหน้า แม่-ลูก กันไหมครับ

เร็วๆ นี้ อาม้าผมคงต้องผ่าตัดหัวเข่า ส่วนตัวผมจะพยายามอย่างมากที่จะจัดคิวน้องผู้ช่วย ให้คอยขับรถให้อาม้า นี่อาจจะเป็นเรื่องเดียว ณ ตอนนี้ที่ผมจะใช้ความพยายามดูแลอาม้าได้ ผมกับอาม้า เป็นแม่-ลูก ที่ไม่ค่อยคุยกันเท่าไหร่ แต่ผมคิดว่าผมเข้าใจว่าอาม้าอยากจะให้ทำอะไร ถึงแม้ว่าส่วนใหญ่ผมจะไม่ได้ทำตาม ด้วยเหตุผลมากมาย นั่นเป็นวิถี ที่เมื่อเราอายุมากขึ้นก็ต้องดำเนินไป เพียงแต่สิ่งที่สมควรทำ สมควรปฏิบัติต่ออาม้า เราควรทำอย่างที่สุด ปัจจุบันนี้ผมพยายามอยู่ มีหลายเรื่องที่อยากทำให้อาม้า ซึ่งต้องใช้เวลา บางเรื่องผมเองยังบอกไม่ได้ว่าจะนานเท่าไหร่ เพราะความสำเร็จบางครั้งมีปัจจัยมาก

แต่สิ่งที่ควรทำต่อแม่ นั้นมันไม่ยากเกินไป บางเรื่องเป็นเรื่องเล็กๆ แต่มีความหมายมากมาย หากเพื่อนๆ ได้อ่านบทความนี้ แล้วร่างกายยังมีความพร้อม ไม่ได้พิการรุนแรงแบบผม ก็ควรทำ ควรปฏิบัติต่อแม่ของคุณเสียแต่วันนี้ ชีวิตคนเราไม่แน่นอนเลย หากเกิดอะไรขึ้นกับคุณ แล้วคุณยังโชคดี อาจกลายเป็นแค่คนพิการแบบผม แล้วยังพอมีโอกาาสตอบแทนบุญคุณแม่แบบตามข้อจำกัดความพิการ แต่หากโชคร้าย คุณอาจไม่มีโอกาสได้ตอบแทนบุญคุณเลยก็ได้ ดังนั้นอย่าปล่อยเวลาให้ผ่านเลยไปนะครับ

พิมพ์เมื่อ 12 สิงหาคม 2556