83 : บทความชุด “ผมกำลังจะกลายเป็นผู้ประสบภัย” ตอนที่ 32 @ 28 ตุลาคม 2554 ชื่อตอน "ผมพึ่งเห็นว่าป้าย "ห้ามจอด" หน้าบ้านจะขลังขนาดนี้ครับ"

สวัสดีครับเพื่อนๆ ตามที่แจ้งว่าตอนนี้ จะพาไปดูเรื่องขำๆ 2 เรื่อง จริงจังสัก 1 เรื่อง รวมอยู่ในตอนนี้เลยนะครับ โดยเริ่มจาก เรื่องขำๆ เรื่องแรกนะครับ ในหมู่บ้านมีร้านค้าประจำหมู่บ้าน ชื่อว่า "ร้านรวยรวย" ที่นี่มีทุกอย่าง ทำอาหารด้วยครับ มีนักเก็ต มีสลัด มีเฟรนด์ไฟด์ ด้วยครับ ซึ่งแน่นอนว่าน้ำต้องท่วมด้วยชั้นล่าง ปรากฏว่าเจ้าของร้านก็ทักทายน้องสาว ตอนที่พายเรือผ่าน (อันนี้ให้คะแนนสมเป็นแม่ค้านะครับ รู้จักทักทายลูกค้าครับ) จึงซื้อขายกันผ่านชั้น 2 ของร้านรวยรวย จึงนำภาพบรรยากาศการซื้อขาย ในภาวะน้ำท่วมมาากเพื่อนๆ ชมกันนะครับ






ใช้ตระกร้าส่งของ ทอนตังค์ กันครับ


แวะเก็บภาพหน้าบ้านประธานหมู่บ้านมาฝากครับ


เห็นป้ายที่เสาไฟฟ้า ไกลๆ ครับ

เป็นไงบ้างครับเพื่อนๆ สำหรับเรื่องขำๆ เรื่องที่ 2 ที่เสาไฟฟ้ามีป้าย "ห้ามจอด" เดิมไม่มีน้ำท่วม หน้าบ้านก็จอดรถกันได้ตลอดครับ พอน้ำท่วมปุ๊บ ป้าย "ห้ามจอด" ก็ขลังขึ้นมาทันทีเลยครับ ไม่รู้ว่าเพื่อนๆ จะขำรึเปล่า แต่ผมขำ คือ ขำแบบอมยิ้ม อารมณ์ดี ครับ


2 ภาพบนนี้นะครับ เรามาเข้าสู่เรื่องจริงจังเล็กน้อย คือ เรื่อง "โดนตัดไฟ" ดูจะยอดฮิตว่า น้ำท่วมถึงไหน โดนตัดไฟที่นั่น ซึ่งอันที่จริงแล้วไม่ใช่ ว่าทางการไไฟ้านครหลวง จะตัดไฟดะ นะครับ ยกตัวอย่างที่บ้านของเรา ที่แรกๆ ผมกังวลใจ แต่พอโทรคุยกับ จนท. จึงทราบว่า ถ้าน้ำยังไม่ถึงมิเตอร์ ในระยะความสูง 30 เซนติเมตรก่อนถึงมิเตอร์ ทางการไฟฟ้าจะไม่ตัดไฟครับ ดังนั้นแล้ว ไม่ต้องกังวลใจว่า น้ำท่วมมาแล้วจะตัดไฟเลย ต้องดูเหตุดูผลก่อน แต่ที่บ้านเคยมีไฟดับเหมือนกันนะครับ เสียวว๊าบเลย เพราะใช้ปั๊มน้ำไดโว่ ถ้าถูกตัดไฟห็เสร็จ น้ำท่วมบ้านแน่นอน เลยมีคุยๆ กันไว้ว่า ปีหน้าจะเตรียมเครื่องสูบน้ำแบบใช้ดีเซล เหมือนกันครับ


ขอจบด้วยบริเวณหน้าบ้านที่น้ำท่วมป้ายเลขที่บ้านครับ และก็ยังเชียร์ แพลอยน้ำนะครับ มีประโยชน์มากๆ ครับ สำหรับตอนหน้ามารอพบกับบทความ การแก้ปัญหาของแนวกำแพงอีกครั้งนะครับ เพราะว่า กำแพงที่บ้านมีจุดอ่อนเยอะเลยครับ ที่ยันอยู่ถึงทุกวันนี้ก็นับว่ายอดเยี่ยมแล้วครับ