อารมณ์ดี (555) : อยุธยา ในวันพระใหญ่ กับความทรงจำเก่า

สวัสดีครับ วันที่ 31 พฤษภาคม 2550 เป็นวันพระใหญ่ คือวันวิสาขบูชา จึงได้มีโอกาสไปทำบุญที่วัดชุมพล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

เดินทางบนถนนเอเชีย เห็นห้างโลตัส และศาลากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทางด้านซ้ายมือ ก็ถึงแยกที่เลี่ยวซ้านเข้าตัวอำเภอเมือง มองไปข้างหน้าเห็นเจดีย์ขนาดใหญ่ อยู่กลางถนน

ภาพถ่ายพระเจดีย์ที่อยู่กลางถนน บริเวณแยกพอดี ได้ความจากแม่ประไพว่า คนที่นี่เรียก " เจดีย์นักเลง "

เป็นอีกภาพที่รถที่ผมโดยสารไปด้วย ขับเข้าใกล้เจดีย์นักเลง จึงถ่ายภาพภายในรถมาให้ดูกันอีกภาพครับ

จากนั้นก็ขับรถตาม " ต้น " ลูกชายของแม่ประไพ ไปจนถึงวัดชุมพล แต่ผมมาไม่ทันถวายอาหารเพล เพราะที่วัดนี้จะถวายตอนเช้า และวันนี้คนเยอะมาก มาถึงก็รอให้ประชาชนที่ทำบุญอยู่ที่โบสถ์ใหม่กลับก่อน จะได้รอถวายสังฆทาน และบังสกุลที่ศาลาเก่า ซึ่งไม่สูงชั้นเดียว เหมาะกับผมที่อยู่บนรถเข็น

และระหว่างที่รอ ก็ได้ไปไหว้พระพุทธรูป " หลวงพ่อดำ " ที่มีสีดำทั้งองค์ (และยังมีองค์จำลองที่มีขนาดใหญ่กว่า) พี่บัว (พี่เลี้ยงดูแลผม) ก็ไปสักการะและเสี่ยงทาย " ยกลูกกระเจียบหิน " ซึ่งแกก็ยกขึ้น และเห็นแกบอกว่า คนข้างๆ กลับยกไม่ขึ้น พี่บัวขอให้ผมหาย และเดินได้ครับ ที่สำคัญ แกยกขึ้นด้วย

ต่อมาก็มาไหว้ " กะโหลกช้าง " ที่มีคำกลอนเตือนใจ ให้ทุกคนทำความดีในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ จากนั้นก็ไปทำบุญถวายสังฆทาน โดยใส่พระประจำวันของคนที่เรารัก เป็นห่วง และของเราลงไปด้วย จากนั้นก็ได้รับการทำพิธีบังสกุล สะเดาะเคราะห์ และทุกคนก็รีบพากันกลับบ้าน เพราะมีอะไรบางอย่างรออยู่

พี่บัวซ้อนท้ายพ่อ ส่วนผม ต้น และแม่ไพ นั่งรถกลับจนถึงบ้าน เลขที่ 68/666 หมู่บ้านการเคหะแห่งชาติ ก็จะทราบแล้ว่ามีอะไรรออยู่ ก็พวกเจ้าตูบ เจ้าเหมียวนั่นเอง เพราะเวลาก็ปาเข้าไป เที่ยงครึ่งแล้ว หลังจากที่สมาชิกที่พูดไม่ได้ ได้กินข้าวเสร็จแล้ว ผมก็จะเริ่มแนะนำตัว

แต่ผมอยากให้ข้อมูลเบื้องต้นก่อนว่า ครอบครัวแม่ไพ เป็น " ครอบครัวอาหารเสริม Herbalife " ซึ่งทำให้ร่างกายของแม่ไพดีขึ้น และลาขาดจากเพื่อนยากหลายโรคที่เคยสนิทสนมกันมาก่อน จนเพื่อนบ้านประหลาดใจ ทำให้ดาราในบ้านที่จะแนะนำต่อไปนี้ เชื่อนะครับ เคยเป็นขี้เรื้อนมาก่อน งั้นเริ่มเลยครับ

เหมียวตัวแรกทางซ้ายชื่อ "ไอเอ็มเอฟ" หรือ "เอฟ" เป็นชื่อที่ถูกตั้งหลังจากมันโตแล้ว และแม่ไพไปพบมันขณะเป็นขี้เรื้อน หมายความว่ามันอายุมากกว่า 10 ปีแล้วครับ ฟันหลอแล้ว ผมพึ่งเคยเห็น "แมวแก่ฟันร่วง" ก็วันนี้เอง แล้วก่อนหน้านี้มันหนัก 6 กิโลกรัม แต่ปัจจุบันหนัก 3 กิโลกรัม

ส่วนตัวทางขวาชื่อ "ทอง" เพื่อนผมอีกคนเรียก "กราฟิว" หนัก 7 กิโลกรัม กินของแพงทุกวัน คือ อาหารเสริมที่เป็นโปรตีนของ Herbalife ดูสุขภาพดีทั้ง 2 ตัว รู้สึกว่า เจ้าทองจะชอบปลาเส้นฟิชโช่ เป็นพิเศษอีกด้วย

นี่เป็นอีกภาพ ที่ต่อเนื่องกันของทั้ง 2 เหมียว ที่ไม่ค่อยกินเส้นกันเท่าไหร่ เพราะเจ้าทองมักไปกวนเจ้าเอฟ ที่อยู่เฉยๆ ตาเศร้าๆ ดูคล้ายปลงโลกแล้ว

ต่อไปเป็นดาราเผ่าพันธุ์ " มะหมา " (ขอเรียกตาม หนังดังที่พึ่งสร้างประวัติศาสตร์วงการหนังไทย ไปหมาดๆ) ในภาพตัวเล็กชื่อ " ช็อคโกแลต " ตัวใหญ่ในภาพ และใหญ่ที่สุด จากทั้งหมด 9 ตัว ชื่อ " ไฟเบอร์บอล "

ภาพต่อมาไล่จากซ้ายไปขวาคือ (เริ่มจากครึ่งตัวไม่พูดถึง) ตัวแรกคือ " สตอเบอรี่ " ชิสุตัวต่อมาชื่อ " มะนาว " และชิสุตัวหลังชื่อ " แตงไทย " ส่วนตัวขวาสุดคือ ช็อคโกแลตตัวเดิม ทุกตัวกำลังกินอาหารเสริมอยู่ครับ เป็นโปรตีนที่ชงผสมน้ำ กันอย่างเอร็ดอร่อย

ภาพต่อมา ตัวที่ไม่เห็นหน้าซ้ายสุดคือ "กระแต" ตัวใกล้สุดชื่อ "ไฟเบอร์แอน" ส่วนขวาสุดคือตัวใหญ่สุดครับ และที่กำลังให้อาหารเสริมอยู่ก็คือ "แม่ไพ" นั่นเอง โอกาสหนบ้าจะนำภาพชัดๆ มาให้ดูกัน

ภาพสุดท้าย จะเห็นว่า เจ้ามะหมาทั้ง 3 จะดูเป็นซีรี่ส์เดียวกัน นั่นคือไกลสุดชื่อ "ไฟเบอร์เยลโล่" ต่มาด้านขวาคือ "ไฟเบอร์แอน" ตัวเดิม และสุดท้ายตัวใหญ่สุดเหมือนเดิม เข้ากล้องตลอด
มีอีกตัวที่ไม่เข้ากล้องชื่อ "ดำ" ตามชื่อครับ ตัวดำ และใน 9 ตัวนี้ มี 4 ตัวที่เป็นขี้เรื้อน คือ ช็อคโกแลต-สตอเบอรี่-กระแต-ดำ ถูกแม่ไพเก็บมารักษา-เลี้ยง ด้วยการกินอาหารเสริม จนหายหมดแล้ว
ทั้งหมดที่ผมเขียน เพื่อจะบอกถึง "ความมีชีวิต" ทั้ง "มะนุษย์" "มะหมา" และ "มะเหมียว" ที่ผมนึกถึงความทรงจำใกล้ตัวที่ได้ดูรายการ "คุยกับสายสวรรค์" ทางช่อง TITV ที่ผู้สร้าง-ผู้กับกับ-เจ้าของสุนัข มองสุนัขเหมือนมนุษย์ จึงเป็นที่มาของชื่อ "มะ-หมา" ที่ออกเสียง "มะ" นำหน้าคล้าย "มะ-นุษย์"

ซึ่งสะท้อนถึงตัวเองที่เคยเลี้ยงแมว แล้วไม่ค่อยได้ให้ข้าวมันเท่าไหร่ ให้มื้อเดียว บางวันเคยลืมไม่ให้ก็มี และส่วนตัวก็ชอบแกล้งแมว ด้วยการตัดหนวด เพราะรู้ว่าแมวจะใช้หนวดในการดำรงชีวิต เช่น ใช้จับหนู ใช้สำรวจสิ่งกีดขวางทำให้หลบทัน มันจึงเดินชนโน่น ชนนี่บ่อยๆ แกล้งมันตามประสาเด็ก จนแม้วมองผมด้วยสายตาว่า "เบื่อมากเลย" "จะแกล้งอะไรอีก"

ขอบคุณครับ
update : June 1, 2007