สวัสดีครับเพื่อนๆ ขณะนี้เวลาประมาณ ตี 3.53 น. ของวันที่ 17 พฤศจิกายน 2560 กำลังทำงานแบบคนบ้าเหมือนเดิม แต่ปีหน้าบอกตัวเองว่าจะไม่เป็นคนบ้าแล้ว จะเป็นคนบอ แทน คือให้ลดความบ้าลงมานิด กำลังพิมพ์งานอยู่ ก็นึกถึงคนใกล้ตัว+นึกถึงคนดีๆ+นึกถึงรางวัล+นึกถึงกิจกรรมสร้างสรรค์ส่วนตัว เพราะปีหน้า 2561 นี้ ผมจะเริ่มทำงานสร้างสรรค์เพื่อส่วนตัวและครอบครัวมากขึ้น แต่งานด้านพัฒนาอาชีพคนพิการยังคงทำอยู่ แต่จะเข้าข่ายลักษณะกระจายงานไปยังเครือข่ายมากขึ้น คือ ถึงเวลาร่วมมือกับเครือข่ายเป็นกิจลักษณะเสียทีครับ
สำหรับเรื่องส่วนตัวนั้น ผมจึงแว๊บเข้ามาในสมองว่า เราใช้ความพยายามอย่างมากที่จะทำตามภาษิตโบราณตั้งแต่วัยเด็กแล้ว จนถึงปัจจุบันว่า "คบคนพาล พาลพาไปหาผิด คบบัณฑิต บัณฑิตพาไปหาผล" ในการตีความของผม บัณฑิตนั้น คือ ผู้รู้ / ผู้รู้ในนิยามของผม ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้เรียนสูง มีความรู้มาก เนื่องจากในปัจจุบันเราเห็นมากมายเลยว่า ผู้มีความรู้สูงนั้น บางครั้งกลับทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ผิดศีลธรรม จรรยาที่ดี ถึงแม้ว่าตัวผมเองก็ยังไม่ได้เป็นคนที่จัดอยู่ในประเภทดีเลิศ ที่สำคัญผมเองก็ไม่ได้อยากที่จะเป็น "คนดี" สักเท่าไหร่ เพราะอยู่ยาก อยากเป็นเพียง "คนน่าจะดี" มากกว่า
คำว่า "คนน่าจะดี" นั้น ก็หมายถึง อาจจะมีความไม่ดีอยู่บ้าง แต่ทำดี เสียสละ มีมากกว่าความไม่ดี ทำนองนั้น คือ แค่คิดเอาเองว่า คนเราไม่น่าจะดี 100% อาจมีขี้เกียจบ้าง ท้อบ้าง เห็นแก่ตัวเล็กๆ บ้าง มีโกรธบ้าง มีน้อยใจบ้าง มีอิจฉาบ้าง หลายๆ เรื่องที่ไม่ดี แต่ต่อท้ายด้วยบ้างทั้งหมด รวมๆ ความแล้ว อยากจะสื่อออกไปว่า ถ้าเมื่อไหร่ มีคนพยายามจะแสดงตนว่าเป็น "คนดี" ทั้งมาบอกเราโดยตรง หรืออาจจะใช้สื่อออนไลน์พยายามบอกว่า เป็นคนดี จากปะสบการณ์ส่วนตัว อาจมีคนดีบางคนนั้น แท้จริงแล้ว ..... (ไม่ดีอย่างที่เราเห็น) ........
ผมจึงคิดถึงคนใกล้ตัวแทน เริ่มจาก ตัวผมเห็นมาตลอดว่า บางคนบความรู้สูง แต่ต่อว่าคนด้วยคำพูดดูถูกเหยียดหยาม มีอคติสูง บางคนความรู้น้อย ผมว่าหลายคนด้วยครับที่ผมรู้จัก แต่เป็นคนเสียสละ พูดจาดี มีความคิดดี ไตร่ตรองก่อนพูด มีความเฉลี่ยวใจ รู้สึกตัวอีกที พบว่าคนส่วนใหญ่ที่เรารู้จักนั้น เป็นคนที่น่าจะดี ลึกๆ ไม่อยากให้เขาเป็นคนดี เพราะ "คนดีนั้นน่ากลัว" เป็นคำกล่าวของ ดร.อันธิกา สวัสดิ์ศรี (อาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ของผมเอง) อาจารย์เคยพูดไว้ในเฟสบุ๊ค ส่วนตัชอบมาก จึงจำมาใช้ ครับ
คิดตกผลึกเรียบร้อยแล้ว จึงคิดว่าจะเริ่มให้รางวัล "คนรู้จักและบ่าจะดี AWARD" ลำดับที่ 1 เสียที คือเป็น คนที่ผมรู้จัก และผมร่วมงานด้วย และเห็นพฤิกรรมทั้งกาย วาจา ส่วนใจนั้นไม่เห็น เพียงคาดเดาเอาเอง จากการกระทำและวาจา สำหรับลำดับที่ 1 นั้น ผมขอมอบให้ นายเทพฤทธิ์ ศรีคงรักษ์
คุณเทพ ยังเป็นคนที่มักเสนอความเห็นต่างๆ ให้กับผม เวลาผมเล่าให้ฟัง หรือผมถามความเห็น ผมพบว่า ความคิดเห็นคุณเทพ ตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเป็นไปได้ในทางปฏิบัติ และมักที่จะถูกต้องตามทำนองคลองธรรม หลายครั้งวิธีคิดของคุณเทพ ออกทำนองบ้านๆ ง่ายๆ แต่สามารถทำได้ และสัมฤทธิ์ผลสูง ส่วนตัวนั้น ผมจะฟังคนรอบข้างค่อนข้างมาก เพราะผมเคารพในอาชีพของแต่ละคนที่ต้องทำงานด้วย ผมจึงไว้ใจงานต่างๆ ที่คุณเทพ สามารถทำให้ผมได้ เกือบทั้งหมดนั้น สำเร็จลุล่วงด้วยดี บนเวลาอันจำกัด
หากท่านใดสนใจใช้บริการรถ TAXI ก็ติดต่อคุณเทพ ได้เลยตามเบอร์ในภาพหลังรถ ส่วนท่านใด หรือเพื่อนๆ สนใจให้ตัดหญ้า-ต้นไม้ ก็ตขิดต่อได้ แต่ควรอยู่ในหมู่บ้านปาริาต ก็จะดีครับ แต่ต้องนัดหมายล่วงหน้านะครับ เพราะคิวแน่นมาก ครับ
ลำดับที่ 1 ขอมอบรางวัล "คนรู้จักและน่าจะดี AWARD" ให้กับคุณเทพฤทธิ์ ศรีคงรักษ์ ไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ ในฐานะบล็อกเกอร์ ส่วนรางวัลเป็นสิ่งนั้น ยังไม่ได้คิดเลยครับ อีกพักใหญ่คงจะคิดได้เองครับ
สำหรับเรื่องส่วนตัวนั้น ผมจึงแว๊บเข้ามาในสมองว่า เราใช้ความพยายามอย่างมากที่จะทำตามภาษิตโบราณตั้งแต่วัยเด็กแล้ว จนถึงปัจจุบันว่า "คบคนพาล พาลพาไปหาผิด คบบัณฑิต บัณฑิตพาไปหาผล" ในการตีความของผม บัณฑิตนั้น คือ ผู้รู้ / ผู้รู้ในนิยามของผม ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้เรียนสูง มีความรู้มาก เนื่องจากในปัจจุบันเราเห็นมากมายเลยว่า ผู้มีความรู้สูงนั้น บางครั้งกลับทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ผิดศีลธรรม จรรยาที่ดี ถึงแม้ว่าตัวผมเองก็ยังไม่ได้เป็นคนที่จัดอยู่ในประเภทดีเลิศ ที่สำคัญผมเองก็ไม่ได้อยากที่จะเป็น "คนดี" สักเท่าไหร่ เพราะอยู่ยาก อยากเป็นเพียง "คนน่าจะดี" มากกว่า
คำว่า "คนน่าจะดี" นั้น ก็หมายถึง อาจจะมีความไม่ดีอยู่บ้าง แต่ทำดี เสียสละ มีมากกว่าความไม่ดี ทำนองนั้น คือ แค่คิดเอาเองว่า คนเราไม่น่าจะดี 100% อาจมีขี้เกียจบ้าง ท้อบ้าง เห็นแก่ตัวเล็กๆ บ้าง มีโกรธบ้าง มีน้อยใจบ้าง มีอิจฉาบ้าง หลายๆ เรื่องที่ไม่ดี แต่ต่อท้ายด้วยบ้างทั้งหมด รวมๆ ความแล้ว อยากจะสื่อออกไปว่า ถ้าเมื่อไหร่ มีคนพยายามจะแสดงตนว่าเป็น "คนดี" ทั้งมาบอกเราโดยตรง หรืออาจจะใช้สื่อออนไลน์พยายามบอกว่า เป็นคนดี จากปะสบการณ์ส่วนตัว อาจมีคนดีบางคนนั้น แท้จริงแล้ว ..... (ไม่ดีอย่างที่เราเห็น) ........
ผมจึงคิดถึงคนใกล้ตัวแทน เริ่มจาก ตัวผมเห็นมาตลอดว่า บางคนบความรู้สูง แต่ต่อว่าคนด้วยคำพูดดูถูกเหยียดหยาม มีอคติสูง บางคนความรู้น้อย ผมว่าหลายคนด้วยครับที่ผมรู้จัก แต่เป็นคนเสียสละ พูดจาดี มีความคิดดี ไตร่ตรองก่อนพูด มีความเฉลี่ยวใจ รู้สึกตัวอีกที พบว่าคนส่วนใหญ่ที่เรารู้จักนั้น เป็นคนที่น่าจะดี ลึกๆ ไม่อยากให้เขาเป็นคนดี เพราะ "คนดีนั้นน่ากลัว" เป็นคำกล่าวของ ดร.อันธิกา สวัสดิ์ศรี (อาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ของผมเอง) อาจารย์เคยพูดไว้ในเฟสบุ๊ค ส่วนตัชอบมาก จึงจำมาใช้ ครับ
คิดตกผลึกเรียบร้อยแล้ว จึงคิดว่าจะเริ่มให้รางวัล "คนรู้จักและบ่าจะดี AWARD" ลำดับที่ 1 เสียที คือเป็น คนที่ผมรู้จัก และผมร่วมงานด้วย และเห็นพฤิกรรมทั้งกาย วาจา ส่วนใจนั้นไม่เห็น เพียงคาดเดาเอาเอง จากการกระทำและวาจา สำหรับลำดับที่ 1 นั้น ผมขอมอบให้ นายเทพฤทธิ์ ศรีคงรักษ์
นายเทพฤทธิ์ ศรีคงรักษ์ กับรถ TAXIP INNOVA คู่ใจคู่กาย
สำหรับการที่ผมได้มารู้จักกับคุณเทพฤทธิ์ ศรีคงรักษ์ (ชื่อเล่น เทพ) นั้น ส่วนตัวแล้ว ถือว่าเป็นความโชคดีอย่างมากที่ได้รู้จักคนออีกคนหนึ่ง (ที่ไม่ใช่พี่น้อง ไม่ใช่ญาติ ผมใช้บริการขับรถกับคุณเทพ คือ ให้คุณเทพ มาขับรถของผม พาผมไปธุระต่างๆ โดยจ่ายเป็นรายวัน) เพราะคุณเทพ เป็นคนที่มีไหวพรยิบดี รู้งาน ต่อสู้ชีวิต รู้ผิด รู้ชอบ รู้ชั่ว รู้ดี ในสายยตาผมนั้น อยู่ในระดับที่สูง มีความมุมานะ ขยัน ตั้งใจในงานที่ทำ เวลาผมคุยงานเพื่อนัดหมายเวลานั้น เราต่างฝ่ายทราบดีว่า หากมีการเปลี่ยนแปลงต้องต่างฝ่ายต่างรีบแจ้งต่อกัน สำหรับผมแล้ว คุณเทพ คิวแน่นมาก ต้องจองคิวล่วงหน้าเป็นเดือน หลายๆ คนต้องจองคุณเทพ 3-6 เดือนก็มี และถึงแม้ว่าจะเป็นคิวด่วนของผม หากไปทับซ้อนกับคิวที่นัดล่วงหน้าหลายเดือน หรือหลายสัปดาห์ ผมก็ไม่สามารถใช้บริการให้คุณเทพ มาขับรถได้ นั่นคือความซื่อสัตย์ต่อลูกค้ารายอื่นๆ ด้วย แต่ส่วนตัวเคยได้ยินคุณเทพว่า ผมเป็นคนพิการรุนแรง หากเลี่ยงได้ หากไปให้ได้ ผมก็ได้สิทธิพิเศษมากกว่าลูกค้ารายอื่นๆ อยู่พอสมควร อันบนบี้ก็แอบปลื้มเอง
คุณเทพ จะบริการวิ่งทั่วไทย เลยนะครับ ท่านอื่นๆ ก็สามารถใช้บริการได้ สามารถติดต่อได้เอง เช่นว่า จะให้ไปส่งที่สนามบิน ต้องออกจากบ้านตี 3 ตี 4 หรือให้ไปรับ-ส่ง ลูกๆ ที่รัก เป็นต้น คุณเทพทานอาหารเจ ตลอดชีวิต ำทำให้ตัวผมเอง เวลาออกไปธุระมีคุณเทพ ขับรถให้ ผมก็ต้องพยายามทานอาหารเจ หรือมังสาวิรัติ ให้ได้ 1 มื้อ ในวันนั้นๆ ด้วย ก็กินพร้อมกับคุณเทพ ด้วยกัน คุณเทพ เป็นอาสาปอเต็กตึ้ง ถึงไม่ทำอาสาบ่อย แต่จะไปในเวลาที่ไปได้ ครับ จิตที่อาสานั้น ในเวลาที่ผมไม่รีบร้อน หากมีเหตุการณ์ฉุกเฉิน หรือมีอุบัติเหตุต่างๆ ที่เกิดขึ้นและเราสองคนเห็น คุณเทพ จะขอลงไปช่วยเหลือ ซึ่งผมก็เต็มใจ ผมจชะนั่งรอในรถ พอ่วยเบื้องต้นเสร็จโดยเฉพาะการประสานงานกับเจ้าหน้าที่ต่างๆ เสร็จ คุณเทพ จะกลับมาขับรถให้ผมต่อ แต่ถ้าวันไหนผมเร่งรีบ คุณเทพจะใช้วิธีโทรศัพท์ประสานงานแทน
คุณเทพ ยังมีรถกระบะ รับจ้างขนของไปต่างจังหวัด และยังรับตัดต้นไม้ แต่งกิ่งไม้ ตัดหญ้า ภายในหมู่บ้านปาริชาต บนถนน 345 อีกด้วย คุณเทพ มีเครื่องมือครบ เรียกว่า มีกิจการหลายงาน ขยันทำงานมาก เพราะมีภาระหลายทางที่ต้องดูแล สำหรัลผมแล้ว คุณเทพ ที่เรียนน้อย แต่มุมานะ มีรถเป็นของตัวเองถึง 2 คัน ก็คื รถ TAXI ที่กู้ธนาคารเอง ไม่ต้องมีคนค้ำประกัน และมีรถกระบะเพื่อทำงานรับจ้างทั่วไป
คุณเทพ ยังเป็นคนที่มักเสนอความเห็นต่างๆ ให้กับผม เวลาผมเล่าให้ฟัง หรือผมถามความเห็น ผมพบว่า ความคิดเห็นคุณเทพ ตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเป็นไปได้ในทางปฏิบัติ และมักที่จะถูกต้องตามทำนองคลองธรรม หลายครั้งวิธีคิดของคุณเทพ ออกทำนองบ้านๆ ง่ายๆ แต่สามารถทำได้ และสัมฤทธิ์ผลสูง ส่วนตัวนั้น ผมจะฟังคนรอบข้างค่อนข้างมาก เพราะผมเคารพในอาชีพของแต่ละคนที่ต้องทำงานด้วย ผมจึงไว้ใจงานต่างๆ ที่คุณเทพ สามารถทำให้ผมได้ เกือบทั้งหมดนั้น สำเร็จลุล่วงด้วยดี บนเวลาอันจำกัด
หากท่านใดสนใจใช้บริการรถ TAXI ก็ติดต่อคุณเทพ ได้เลยตามเบอร์ในภาพหลังรถ ส่วนท่านใด หรือเพื่อนๆ สนใจให้ตัดหญ้า-ต้นไม้ ก็ตขิดต่อได้ แต่ควรอยู่ในหมู่บ้านปาริาต ก็จะดีครับ แต่ต้องนัดหมายล่วงหน้านะครับ เพราะคิวแน่นมาก ครับ
ลำดับที่ 1 ขอมอบรางวัล "คนรู้จักและน่าจะดี AWARD" ให้กับคุณเทพฤทธิ์ ศรีคงรักษ์ ไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ ในฐานะบล็อกเกอร์ ส่วนรางวัลเป็นสิ่งนั้น ยังไม่ได้คิดเลยครับ อีกพักใหญ่คงจะคิดได้เองครับ
