สวัสดีครับทุกท่าน ต่อเนื่องจากที่ผมได้เคยเข้ามาทำเรื่องขอความช่วยเหลือจาก กองทุนยุติธรรม (ยธ.) จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่ได้รับเรจื่องไม้ต่อจาก ยุติธรรม (ยธ.) จังหวัดนนทบุรี ตั้งแต่ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.2563 ผมก็ได้รับหนังสือตอบกลับจาก ยธ.พระนครศรีอยุธยา ว่าอนุมัติให้ความช่วยเหลือหลักประกันปล่อยตัวชั่วคราว วงเงิน 100,000 บาท จึงให้ผมได้ไปดำเนินการต่ออีกขั้นตอนคือ การเซ็นต์ "สัญญาการได้รับความช่วยเหลือจากกองทุนยุติธรรม" ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา บทความนี้ผมเริ่มเป็นบทความแรกๆ ที่จะเริ่มขึ้นบทความซีรี่ส์ "เบญจภาคทุจริตคอรัปชั่นโกงสิทธิ์คนพิการ" หรือผมตั้งชื่อสั้นๆ ว่า "5 ภาคโกงคนพิการ" นะครับ
ขอพิมพ์ให้ความรู้ไปด้วยกันกับบทความนะครับ หลังจากทุกท่านได้ความรู้จากการยื่นคำร้องขอรับความช่วยเหลือจากกองทุนยุติธรรมแล้ว ผ่านทุกขั้นตอนแล้ว จนได้รับการยืนยันอนุมัติความช่วยเหลือ เรื่องที่เราต้องทำต่อในขั้นตอนสุดท้ายคือ การนำพยาน 2 ราย (หายกมีสามีต้องพามาด้วย) เพื่อร่วมเซ็นต์ "สัญญาการได้รับความช่วยเหลือจากกองทุนยุติธรรม" ถึงตรงนี้ส่วนตัวยอมรับว่า ทำให้ชีวิตวุ่นวายนะครับ ไม่ง่ายเลย ในครั้งแรกผมก็ต้องอธิบายให้ครอบครัวใหญ่ คือ คุณแม่ของผม น้องสาวทั้ง 2 คน ที่ยินดีมาช่วยค้ำประกันให้ผม แต่น้องสาวทั้ง 2 คน ก็ต้องไปพูดคุยกับสามีของตัวเองอีก
เรียกได้ว่าในครั้งแรก ผมต้องทำความเข้าใจกับครอบครรัวใหญ่มากพอสมควร เพราะกระทบไปหมด แต่ตัวผมเองก็ไม่อยากไปรบกวนคนอื่น พอมาครั้งนี้ฝ่ายตรงข้ามแพ้คดีไปแล้ว เพราะท่านผู้พิพากษาได้ยกฟ้องไปเรียบร้อยแล้ว กลับนำเรื่องที่ตัวเองก็รจู้ว่าโกหก หรือมาฟ้องเท็จกับผม ยังมาร้องยื่นอุทธรณ์ผมอีก ทุกท่านลองคิดตามว่า ตั้งแต่แรก ฟ้องศาลใส่ร้ายผม ผมก็เอาความจริงเข้าสู้จนชนะคดี แต่กลับไม่สำนึกในความผิดของตัวเอง ยังกลับมาอุทธรณ์เขียนความเท็จส่งให้ศาลพิจารณาอุทธรณ์อีก ผมก็ไม่เข้าใจว่า ทำไมคนเหล่านี้ถึงมีความคิดแบบนี้ แต่ไม่เป็นไรครับ ผมคิดว่าวิบากกรรมนี้ ผมจะเดินหน้ารับวิบากกรรมนี้ไว้เองในชาตินี้ ขอเพียงให้ภารกิจการต่อสู้กับการต้านทุจริตโกงสิทธิ์คนพิการครั้งนี้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดีก็พอครับ
เป็นประจำนะครับผมได้คุณเทพฤทธิ์ สรีคงรักษ์ คอยช่วยเหลือ ดำเนินการ พาผมไปทุกๆ ที่ และคุณเทพ ยังเป็นผู้ที่รู้เห็นทุกเรื่องราว เห็นว่าผมช่วยคนพิิการอย่างไร ผมคิดอย่างไร ผมโํดนกระทำอย่างไร บทความแรกนี้ทุกท่านอาจจะมีคำถามว่า ผมบอกกับทุกท่านว่าผมจะเริ่มเปิดโปงกระบวนการทุจริตคอรัปชั่นประพฤติมิชอบการโกงสิทธิ์คนพิการ หลังวันที่ 24 เมษายน 2563 แล้วทำไมถึงมาพิมพ์บทความเปิดตัวบทความชุด "เบญจภาคทุจริตคอรัปชั่นโกงสิทธิ์คนพิการ" หรืออีกชื่อว่า "5 ภาคโกงคนพิการ" ก่อนวันที่ 24
นั่นก็เพราะว่า มีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้น ททำให้จิตสำนึกและสัญชาตญาณของผม ตัดสินใจที่จะเริ่มนำเสนอบทความ เรื่องราว และความรู้ได้เลย แต่หลังจากวันที่ 24 เม.ย.63 บอกได้เลยว่า แต่ละบทความ เข้มข้น ทั้งเนื้อหา หลักฐาน และความรู้ อย่างแน่นอน มั่นใจเลยว่า คนพิการและบุคคลทั่วไป จะได้รู้ในเรื่องที่คาดไม่ถึงมากมายครับ
หมายเหตุ: ผมเคยปรึกษาทางเจ้าหน้าที่ของยุติธรรมจังหวัด แล้วว่า การเผยแพร่บทความที่เป็นเรื่องจริง และบ่งบอกถึงหน้าที่การทำงานของ ยธ.จังหวัด ขั้นตอน กระบวนการ ภารกิจต่างๆ สามารถเผยแพร่ได้ อีกทั้งผมเลี่ยงที่จะพาดพิงตัวบุคคลที่คิดจะทำร้ายผม ใช้กฎหมายเป็นเครื่องือ ดังนั้นการสื่อสารของผมคือ การให้ความรู้กับคนที่สนใจ และเกี่ยวข้อง โดยไม่ได้คาดหวังว่าใครจะมายกย่องเชิดชูอะไรนะครับ หวังว่าบทความชุดนี้จะเป็นประโยชน์กับ ผู้ที่คิดี กระทำดี มีความเชื่อในบาปบุญคุณโทษครับ
ขอพิมพ์ให้ความรู้ไปด้วยกันกับบทความนะครับ หลังจากทุกท่านได้ความรู้จากการยื่นคำร้องขอรับความช่วยเหลือจากกองทุนยุติธรรมแล้ว ผ่านทุกขั้นตอนแล้ว จนได้รับการยืนยันอนุมัติความช่วยเหลือ เรื่องที่เราต้องทำต่อในขั้นตอนสุดท้ายคือ การนำพยาน 2 ราย (หายกมีสามีต้องพามาด้วย) เพื่อร่วมเซ็นต์ "สัญญาการได้รับความช่วยเหลือจากกองทุนยุติธรรม" ถึงตรงนี้ส่วนตัวยอมรับว่า ทำให้ชีวิตวุ่นวายนะครับ ไม่ง่ายเลย ในครั้งแรกผมก็ต้องอธิบายให้ครอบครัวใหญ่ คือ คุณแม่ของผม น้องสาวทั้ง 2 คน ที่ยินดีมาช่วยค้ำประกันให้ผม แต่น้องสาวทั้ง 2 คน ก็ต้องไปพูดคุยกับสามีของตัวเองอีก
เรียกได้ว่าในครั้งแรก ผมต้องทำความเข้าใจกับครอบครรัวใหญ่มากพอสมควร เพราะกระทบไปหมด แต่ตัวผมเองก็ไม่อยากไปรบกวนคนอื่น พอมาครั้งนี้ฝ่ายตรงข้ามแพ้คดีไปแล้ว เพราะท่านผู้พิพากษาได้ยกฟ้องไปเรียบร้อยแล้ว กลับนำเรื่องที่ตัวเองก็รจู้ว่าโกหก หรือมาฟ้องเท็จกับผม ยังมาร้องยื่นอุทธรณ์ผมอีก ทุกท่านลองคิดตามว่า ตั้งแต่แรก ฟ้องศาลใส่ร้ายผม ผมก็เอาความจริงเข้าสู้จนชนะคดี แต่กลับไม่สำนึกในความผิดของตัวเอง ยังกลับมาอุทธรณ์เขียนความเท็จส่งให้ศาลพิจารณาอุทธรณ์อีก ผมก็ไม่เข้าใจว่า ทำไมคนเหล่านี้ถึงมีความคิดแบบนี้ แต่ไม่เป็นไรครับ ผมคิดว่าวิบากกรรมนี้ ผมจะเดินหน้ารับวิบากกรรมนี้ไว้เองในชาตินี้ ขอเพียงให้ภารกิจการต่อสู้กับการต้านทุจริตโกงสิทธิ์คนพิการครั้งนี้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดีก็พอครับ
 |
| ถึงแล้วครับ ยุติธรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ครับ |
เป็นประจำนะครับผมได้คุณเทพฤทธิ์ สรีคงรักษ์ คอยช่วยเหลือ ดำเนินการ พาผมไปทุกๆ ที่ และคุณเทพ ยังเป็นผู้ที่รู้เห็นทุกเรื่องราว เห็นว่าผมช่วยคนพิิการอย่างไร ผมคิดอย่างไร ผมโํดนกระทำอย่างไร บทความแรกนี้ทุกท่านอาจจะมีคำถามว่า ผมบอกกับทุกท่านว่าผมจะเริ่มเปิดโปงกระบวนการทุจริตคอรัปชั่นประพฤติมิชอบการโกงสิทธิ์คนพิการ หลังวันที่ 24 เมษายน 2563 แล้วทำไมถึงมาพิมพ์บทความเปิดตัวบทความชุด "เบญจภาคทุจริตคอรัปชั่นโกงสิทธิ์คนพิการ" หรืออีกชื่อว่า "5 ภาคโกงคนพิการ" ก่อนวันที่ 24
นั่นก็เพราะว่า มีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้น ททำให้จิตสำนึกและสัญชาตญาณของผม ตัดสินใจที่จะเริ่มนำเสนอบทความ เรื่องราว และความรู้ได้เลย แต่หลังจากวันที่ 24 เม.ย.63 บอกได้เลยว่า แต่ละบทความ เข้มข้น ทั้งเนื้อหา หลักฐาน และความรู้ อย่างแน่นอน มั่นใจเลยว่า คนพิการและบุคคลทั่วไป จะได้รู้ในเรื่องที่คาดไม่ถึงมากมายครับ
หมายเหตุ: ผมเคยปรึกษาทางเจ้าหน้าที่ของยุติธรรมจังหวัด แล้วว่า การเผยแพร่บทความที่เป็นเรื่องจริง และบ่งบอกถึงหน้าที่การทำงานของ ยธ.จังหวัด ขั้นตอน กระบวนการ ภารกิจต่างๆ สามารถเผยแพร่ได้ อีกทั้งผมเลี่ยงที่จะพาดพิงตัวบุคคลที่คิดจะทำร้ายผม ใช้กฎหมายเป็นเครื่องือ ดังนั้นการสื่อสารของผมคือ การให้ความรู้กับคนที่สนใจ และเกี่ยวข้อง โดยไม่ได้คาดหวังว่าใครจะมายกย่องเชิดชูอะไรนะครับ หวังว่าบทความชุดนี้จะเป็นประโยชน์กับ ผู้ที่คิดี กระทำดี มีความเชื่อในบาปบุญคุณโทษครับ
