สวัสดีครับเพื่อนๆ บทความนี้ผมขอนำภาพบรรยากาศบางส่วนภายในบ้านมาฝากนะครับ แล้วไปลงท้ายที่มีการงอกของกิ่งต้นไม้ครับ งั้นเริ่มจากรายงานระดับน้ำนะครับตอนนี้ลดลงมาอยู่ที่ 90 ซม. ส่วนตัวถือว่าลดลงมามากนะครับ ถ้าเทียบกับ 1.50 เมตรเมื่อตอนที่ระดับน้ำสูงสุด มั่นใจได้แล้วว่ากำแพงไม่มีทางพังเข้ามาแน่นอน แต่ยังวางใจไม่ได้เรื่องไฟฟ้าดับ จากทุกสาเหตุจนทำให้ปั๊มไดโว่ ไม่ทำงานจนในที่สุดน้ำท่วมบ้านจากการซึมเขามา ซึ่งขณะนี้อัตราการซึมนั้นต่ำลงมากว่า 5 ชั่วโมง ถึงจะเริ่มสูบน้ำออกได้ครับ พื้นถนนโดยรอบเต็มไปด้วยตระไคร้สีเขียวครับ
มีชีวิตใหม่เกิดขึ้น นระหว่างน้ำท่วมครับ
จากภาพข้างบนทั้งสองภาพ คือ ไม้ยูคาลิปตัสที่เรานำมายันกำแพง ต้านแรงดันน้ำเอาไว้ ซึ่งมันถูกตัดมาทำเป็นไม้ใช้งาน ปรากฏว่าไม้ยูคาลิปตัสในแนวตั้ง ที่ปลายอีกข้างหนึ่งอยู่ที่พื้นดิน อีกด้านหนึ่งยันไม้แนวนอน ปรากฏว่า มีแขนงของกิ่งไม้แตกหน่อออกมา มีใบเขียวออกมา ผมว่าเยอะเหมือนกันนะครับ จึงแปลกใจเล็กน้อย ว่าซากไม้ที่ถูกกตัดแล้ว เหมือนตายไปแล้ว ทำไมถึงได้มีกิ่งงอกออกมาได้ จึงพยายามหาคำตอบ ด้วยการค้นหาเรื่องนี้ในอินเตอร์เน็ต ก็ไม่พบ
จึงตัดสินใจ โทรไปร้านค้าที่ขายไม้ยูคาลิปตัส ว่าเคยพบเหตุการณ์นี้หรือไม่ ก็ปรากฏว่า เป็นเช่นเดียวกัน ถ้าไม้ยูคามีปลายข้างหนึ่งโดนน้ำ หรืออแช่น้ำ หรือนำไปใช้งานถูกปักลงบนดินที่มีน้ำ จะมีกิ่งงอกออกมา มีใบไม้ แต่สักพักจะแห้งเหี่ยวเฉาไปเอง แต่มีข้อสังเกตุได้ว่า ไม้นั้นต้องเป็นไม้สด หรือไม้ใหม่ ที่ไม่ได้ถูกตัดมานานแล้ว จึงทำให้มานึกๆ เอาว่าอาจจะเป็นได้ว่า ท่อน้ำเลี้ยงของต้นยังไม่แห้งตายสนิท พอปลายข้างหนึ่งจุ่มน้ำจึงดูดน้ำขึ้นไป และโดยปกติ ตากิ่งจะอยู่แทบทุกจุดของต้นไม้อยู่แล้ว จึงทำให้งอกกิ่งใหม่ออกมาได้ แต่พอสักพักมันก็จะแห้งตายเนื่องจากท่อน้ำเลี้ยงแห้งสนิท
เออ... ว่าแต่ว่าไอ้ "ท่อน้ำเลี้ยง" มันฟังแล้วคุ้นๆ นครับ มีท่อน้ำเลี้ยงจึงงอกกิ่ง พอท่อน้ำเลี้ยงแห้ง หรือขาดแล้ว กิ่งจะเฉา แสดงว่า ต้องตัดท่อน้ำเลี้ยงนะครับ อาจมีการเปลี่ยนแปลงการเมืองไทยได้ ไม่ว่าจะฝ่ายใดก็ตาม ผมขอเลยเถิดไปถึงการคอรัปชั่นก็เป็นท่อน้ำเลี้ยงประเภทหนึ่งครับ งั้นตอนต่อไป ขอเป็น "ตัดเล็บ" สำหรับคนพิการทุพพลภาพ แทน "ตัดท่อน้ำเลี้ยง" ละกันนะครับ