Showing posts with label ช่างแอร์. Show all posts
Showing posts with label ช่างแอร์. Show all posts

142: เจอช่างแอร์ในเชิงอุดมคติ จนทำให้ได้ไอเดียในการทำธุรกิจในอนาคต

สวัสดีครับเพื่อนๆ วันนี้เป็นวันเสร์ที่ 13 ก.ค.56 มีช่างแอร์มาล้างแอร์ที่บ้าน ชื่อคุณต่าย ผมมีความรู้สึกหลายอย่างกับคุณต่าย ผมประหลาดใจเล็กน้อยในทิศทางที่เป็นบวก เขามากันทั้งครอบครัว พ่อ แม่ ลูก มาช่วยกันทำงานล้างแอร์ ผมเห็นลูกของคุณต่ายเป็นลูกมือคุณต่ายอย่างคล่องแคล่ว วันหยุดเสาร์-อาทิตย์ เด็กวัยรุ่นคนหนึ่งกำลังช่วยครอบครัวทำงาน หารายได้ ปลื้มแทนคุณต่ายมาก ผมถามว่าทำนานหรือยัง คุณต่ายบอกว่าทำตั้งแต่ยังเล็กๆ แล้ว

ผมสัมภาษณ์ต่ออย่างสนใจ คุณต่ายเล่าว่า เขารับราชการ และจะล้างแอร์เฉพาะเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดราชการ รายได้จากการล้างแอร์ มากกว่าเงินเดือนราการ ผมถามต่อว่า คิดจะขยายกิจการไหม คุณต่ายตอบอย่างทันที (คงจะโดนถามบ่อยๆ) ว่า ไม่ครับ ไม่อย่างรับช่าง มันยุ่ง วุ่นวาย ทำเท่าที่จะทำได้ อย่างนี้ดีอยู่แล้ว เต็มที่ลูกชายโตขึ้นอาจจะมีอีกสักทีมเพิ่มขึ้น




ลูกชายคุณต่ายกำลังล้างทำความสะอาดรังผึ้งอยู่ด้านนอก


ใกล้เสร็จแล้ว

มาถึงการล้าง ผมดูอยู่ตลอด เขามีวิธีการล้างได้มาตรฐาน และยังมีเครื่องมือเฉพาะที่ทำขึ้นมาเอง เพื่อแก้ปัญหาที่ตัววเครื่องคอยล์เย็นของแอร์ อยู่ในจุดอับที่ทำการล้างลำบาก เครื่องมือทำเองน่าสนใจมากๆ สำคัญเหนือสิ่งอื่นใดเลย ผมพดคุยกับคุณต่ายในประเด็นการเติมน้ำยาแอร์ แกทราบดีว่าไม่ควรไปหลอกเติมน้ำยาแอร์กับลูกค้า ตรงนี้เป็นจุดที่ผมประทับใจ

ผมจึงอยากสนับสนุน และแนะนำทีมล้างแอร์บ้าน "คุณต่ายแฟมิลี่" (Tai Family Team) แบบว่าตั้งชื่อให้เขาเองครับ มาเป็นครอบครัวน่ารักดี ติดต่อที่เบอร์ 085-145-2576 คุณต่ายบอกผมว่า เขาไม่อยากเข้าเมือง ขอล้างบริเวณรอบๆ เมือง เช่น พระราม 5, สะพานพระราม 4, นนทบุรี บางใหญ่ ฯลฯ ยังไงก็ลองติดต่อกันเอาเองนะครับ อะไรดีๆ ก็ควรแนะนำกันครับ

(ภาพอาจจะมีมุมมองแปลกๆ คือผมถ่ายเอง ด้วยการเอากล้องวางที่กองเอกสารแล้วเอียงกล้อง กดถ่ายภาพเองนะครับ ต้องขอโทษด้วยนะครับ)

เขียนบทความวันที่ 13 กรกฎาคม 2556

46 : รู้ทันมิจฉาชีพที่แฝงตัวอยู่ในวิชาชีพให้บริการแอร์ (อย่าให้ช่างแอร์มาหลอกเรา) ตอนที่ 2/5

จากตอนที่ 1 ผมได้เกริ่นไว้ว่า จะไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันกับสถานีตำรวจ เอาไว้ว่าบริษัทให้บริการแอร์ เข้าข่ายมิจฉาชีพ นั้นผมต้องเลื่อนออกไปก่อน เพราะว่าบริษัทเดิม ได้ติดต่อกลับมา หลังจากที่เราโทรไปคุยหลายครั้งว่าแอร์ยังไม่เย็น เขาจะให้ช่างเข้ามาดูให้ใหม่ เขาอยากบริการเรา ซึ่งน้องสาวก็ไม่ยอม เพราะไม่ไว้ใจช่าง ทางนั้นจึงยืนยันมาว่า เจ้าของบริษัท จะมาเอง เราจึงไว้วางใจให้เครดิต เพราะเจ้าของให้ความสำคัญมาเอง

เมื่อเจ้าของมาถึง ให้ลูกน้องตรวจดู ซึ่งก็ต้องจบลงที่เดิม คือ การล้างแอร์ เพราะว่าฝุ่นจับที่แผงคอยล์เย็น มากๆ นับเป็นจุดเริ่มต้นแรก ที่ผมอยากแนะนำเพื่อนๆ ว่า สิ่งที่ควรทำ คือ การล้างแอร์สม่ำเสมอ ขึ้นกับปริมาณการใช้งาน ถ้าใช้น้อยเปิดเฉพาะกลางคืน ควรล้างทุก 6 เดือน แต่ถ้าเป็นพื้นที่ ที่มีการใช้งานทั้งวัน 15-24 ชั่วโมง ควรล้างทุก 3-4 เดือน ทั้งนี้ขึ้นกับสิ่งแวดล้อมประกอบ เช่น ติดถนนหรือไม่ หรือ มีการก่อสร้างใกล้บ้าน หรือ มีคนเข้า-ออก พลุกพล่านในห้องแอร์ เป็นต้น แต่โดยภาพรวมคือ ถ้าแอร์ที่เราเคยใช้งานปกติ ไม่เย็น ให้เรียกล้างแอร์ไว้ก่อนเป็นลำดับแรก ครับ

ช่างแอร์บริษัทเดิม ยืนยันว่า ต้องเก็บเงินค่าล้างอีก 500 บาทค่าล้างแอร์ และบอกว่าช่างคนเดิม เติมน้ำยาแอร์จริงๆ เท่ากับว่าที่บ้านผมต้องเสียเงินไปแล้ว 750+500 = 1,250 บาท น้องสาวผมเกรงใจช่างแอร์ลูกน้องเก่า เพราะอยู่ไกล ไม่อยากให้เดินทางมา แต่หลังจากนี้สำคัญครับ อีก 2 ชั่วโมงต่อมา แอร์ก็เป่าแต่ลมเหมือนเดิม ไม่เย็น อีกแล้วครับ ผมยังคงต้องเปิดพัดลมเหมือนเดิม ทำให้ที่บ้านผมตัดสินใจว่า จะไม่ใช้ช่างแอร์บริษัทเดิมอีกแล้ว และได้โทรไปสอบถามญาิติๆ ว่า มีช่างแอร์ที่ไหนไว้ใจได้บ้าง และได้นัดหมายให้มารุ่งขึ้น ทุกคนยืนยันว่าเก่งมาก


ภาพช่างแอร์บริษัทเดิม ขณะเข้าครั้งที่ 2 เพื่อล้างแอร์ ซึ่งควรเป็นขั้นตอนแรกที่ควรจะทำ

วันต่อมา ผมก็เดินทางออกนอกบ้าน เพื่อไปคุยงานที่ Central World และ รพ.ศิริราช ซึ่งเป็นงานบุญ ในโครงการเทิดพระเกียรติ 84 พรรษาฯ ระหว่างเดินทางช่วงเช้า น้องสาวผมก็โทรเข้ามาว่า ช่างแนะนำว่า "ต้องเดินท่อน้ำยาใหม่หมด เนื่องจากแคปทิวส์มันตัน ต้องเสียเงินทำระบบใหม่ ประมาณ 2,800 บาท" ผมไม่รู้ว่า น้องสาวผมถอดคำพูดไม่ตรง หรือช่างใช้คำพูดหลอกลวง แต่ละเหตุผลฟังไม่ขึ้นทั้งสิ้น เช่น
  • "แคปทิวส์ตัน มันสกปรก ต้องตัดแคปทิวส์ออก แล้วเปลี่ยนใหม่"
  • "ก่อนเปลี่ยนแคปทิวส์ ต้องปล่อยน้ำยาออก ทำให้น้ำยาหมด ต้องเติมใหม่"
  • "และถ้าต้องเปลี่ยนแคปทิวส์ ก็ต้องเดินระบบน้ำยาแอร์ใหม่ทั้งหมด ต้องเชื่อม ต้องทำงานเยอะ"
สรุป คือ ช่างแอร์ชุดใหม่ จะเก็บเงิน 2,800 บาท น้องสาวบอกผมว่าจะทำ ไม่อยากให้ผมร้อนนะ เขาสงสารผม ที่สำคัญผมทำงานไม่ได้มาหลายวันแล้ว ผมรีบบอกน้องสาวว่า "หยุด อย่าทำ อย่าให้ช่างไม่ดีพวกนี้มาหลอก เดี๋ยวผมจัดการเรื่องนี้เอง" (มีรายละเอียดในการพูดคุยหลายเรื่อง ผมไม่ขอนำมาเขียนในที่นี้ แต่จะสรุปเป็นข้อมูลรวม ให้เพื่นๆ ได้อ่านกัน ในตอนสุดท้าย ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ทุกๆ ท่าน ครับ

พรุ่งนี้ผมยังต้องออกจากบ้านอีกวัน ผมจะจัดการเรื่องนี้เอง ด้วยคนที่ผมมี คือ คนดูแลผม และคนขับรถ TAXI เจ้าประจำ ที่ทั้ง 2 คนนี้ไม่มีความรู้เรื่องแอร์เลย จากที่สอบถามระหว่างนั่งกันมาในรถ ดูทั้ง 2 คนจะตื่นเต้นเล็กน้อย และผมก็บอกทั้ง 2 คนว่า "ไม่ยาก มันง่ายมากๆ" ผมอยากให้พื่อนๆ ตามอ่านในตอนที่ 3 ต่อไปนะครับ แล้วผมจะนำภาพก่อนที่ช่างจำเป็น 2 คนของผมจะเริ่มงานแก้ไข และหลัังแก้ไข แล้วมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันครับ ที่สำคัญ แอร์เย็นเสียด้วยครับ ช่างจำเป็นทำอย่างไร ง่ายจริงหรือไม่ แล้วพบกันครับ

45 : รู้ทันมิจฉาชีพที่แฝงตัวอยู่ในวิชาชีพให้บริการแอร์ (อย่าให้ช่างแอร์มาหลอกเรา) ตอนที่ 1/4

สวัสดีครับ เพื่อนๆ สำหรับทความนี้ จะประมาณว่าบ่นๆ ขอระบาย พร้อมๆ กับให้ความรู้พื้นฐานเพื่อนๆ ไปด้วย ส่วนตัวผมมีความตั้งใจจะนำเสนอวิธีการ และพัฒนาวงการ "ให้บริการล้างแอร์" ในสังคมไทยต่อไป โดยพร้อมตีแผ่ การทุจริต ในวัฒนธรรมการให้บริการล้างแอร์ในไทย อย่างเต็มที่ รวมทั้งจะรณรงค์ให้ช่างแอร์ หรือบริษัท ที่ให้บริการด้านแอร์ นั้นมีธรรมาภิบาล ในวงกว้าง

เนื่องจากวงเงินในการให้บริการล้างแอร์ทั่วประเทศไทยนั้น ส่วนตัวผมคิดว่ามีสูงถึง 5 หมื่นล้านบาท และอาจเกิดความสูญเสียจากการทุจริตในการให้บริการมากกว่า 1 หมื่นล้านบาท หรืออาจมากกว่านั้นอย่างน่าตกใจก็เป็นได้ เพราะนี่เป็นตัวเลขประเมินจากตัวผมคนเดียวครับ

รุ่นแอร์ของโตชิบ้า ที่ผมใช้อยู่ครับ

เริ่มเรื่องจากเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2554 ที่ผ่านมา อยู่ดีๆ แอร์ของผมก็เป่าแต่ลมออกมา ไม่มีความเย็น ที่สำคัญวันนั้นร้อนมากๆ ครับ ผมทำงานไม่ได้เลย เพราะร่างกายพิการรุนแรงของผมนั้น ไม่สามารถระบายความร้อนทางเหงื่อได้ ผมดื่มน้ำเย็นตลอดกว่า 4 ลิตร ลมหายใจผมร้อนมาก คุณแม่ให้เอาพัดลมมาเป่า วันนั้นเป็นวันอาิตย์ ช่างแอร์หยุดงาน (ซึ่งผมคิดว่าไม่ควรหยุด ควรหยุดวันธรรมดา) ผมเอาผ้าชุบน้ำบีบน้ำหมาดๆ ให้เปียกนิดหน่อย โปะหน้า โปะตัว เป็นระยะๆ ทั้งวันทำงานได้น้อยมาก ทั้งๆ ที่กำลังทำงานการเตรียมงานเกี่ยวกับโครงการเทิดพระเกียรติ 84 พรรษา ในหลวงอยู่


ความร้อนยังคงอยู่ ตกดึกอากาศดีหน่อย แต่ก้ไม่ดีมาก ผมยังรู้สึกไม่สบายตัว ลมหายใจยังคงร้อน ต้องนอนเร็วขึ้น ไม่ได้ทำงานถึง ตี 2-3 เหมือนเคย เพราะคอมพิวเตอร์ ก็ทำให้ใกล้ๆ ตัวผมร้อนเช่นกัน ในที่สุดวันนี้ก็ผ่านไป


วันรุ่งขึ้น ช่างแอร์ก็มาถึงที่บ้านประมาณ 10.00 น. ผมกำลังคุยโทรศัพท์อยู่ จึงไม่ว่างที่จะคุยกับช่างแอร์ คุณแม่ผมคุยกับช่าง ได้ความว่า "แอร์ไม่เป็นอะไร ไม่ต้องล้าง ดูแค่เรื่องเติมน้ำยาก็พอ" แล้วช่างก็ไปเติมน้ำยาให้กับคอยล์ร้อน ด้วยความรวดเร็ว ช่าง 2 คนก็เก็บเครื่องมือกลับไป พร้อมกับคิดค่าบริการเติมน้ำยาก 25 ปอนด์ ปอนด์ละ 30 บาท เท่ากับเวลาไม่นาน ช่างได้เงินจากคุณแม่ผมไป 750 บาท พร้อมกับความหวังดีว่า "ไม่ต้องล้างแอร์หรอก จะได้ไม่ต้องเสียอีก 500 บาท ค่า้ล้างแอร์" ดูเหมือนเป็นความหวังดีมาก จริงๆ

ผมทักท้วงคุณแม่ผมว่า ต้องมาล้างแอร์ ไม่ใช่มาเติมน้ำยา เพราะต้นตอหลักๆ ที่แท้จริง ของการที่แอร์ไม่เย็นนั้นในหลายๆ สาเหตุ มาจากที่มีฝุ่นเข้าไปจับในคอยล์เย็น และไปทำให้ระบบปิดของแอร์นั้นเสียไป ดังนั้นหลังการล้างเอาฝุ่นสกปรกออกไปจากคอยล์เย็น และทำความสะอาดคอยล์ร้อนด้านนอกแล้ว แอร์จะกลับมาเย็น เช่นเดิม เป็นความเป็นจริงทั้งทางปฏิบัติ และทฤษำีการทำความเย็น

สามารถอ่านคำอธิบายให้เข้าใจได้ง่ายในบทความ little-3 : อย่าให้ช่างแอร์มาหลอกเติมน้ำยาอีก ซึ่งผมเคยเขียนเอาไว้เมื่อ 4 ปีก่อน หรือเข้าจากลิงก์นี้ก็ได้ครับ http://alittleofknowledge.blogspot.com/2007/06/little-3.html ผมจะกลับมาเขียนบทความ เพื่ออธิบายให้เพื่อนๆ เข้าใจได้ง่ายๆ ว่า ทำไมพวกราทุกคนถึงโดนช่างแอร์ กระทำการแบบมิจฉาชีพ หลอกลวงเอาเงินจำนวนมากจากเราไป ทั้งๆ ที่พวกขาทราบดีว่า น้ำยาแอร์ไม่ได้รั่ว หรือหายไปไหน ทุกอย่างพสูจน์เชิงวิทยาศาสตร์ใกล้ตัวง่ายๆ ได้

ที่สำคัญครั้งหน้านี้ ผมจะมาพร้อมกับ "ใบแจ้งความ" ที่ผมจะไปแจ้งความกับตำรวจท้องที่ ที่บริษัทให้บริการแห่งนี้มาหลอกลวง กับที่บ้านผม เพราะว่า หลังจากนั้น 2 ชั่วโมงต่อมา แอร์มีแต่ลมออกมา น้องสาวผมจึงโทรไปคุย แล้วได้คำตอบว่า "เมื่อกี้ลองเทสต์น้ำยาดู คอมเพรสเซอร์ของคุณพัง ต้องเปลี่ยนคอมเพรสเซอร์ใหม่ ซึ่งแพงมาก แนะนำว่าให้คุณซื้อแอร์ใหม่เลยดีกว่า" ดังนั้น แจ้งความดีที่สุด

และผมก็ได้เรียกลูกน้องเก่า ที่ผมเคยทำบริษัทร่วมกันมาก่อน ให้ช่วยเข้ามาดู จริงๆ ไม่อยากทำแบบนี้เพราะว่าเขาอยู่บางนา แต่บ้านผมอยู่บางบัวทอง จึงต้องให้ล้างหลายเครื่องพร้อมกัน จะได้คุ้มค่าเดินทาง ถ้ามีีโอกาสเหมาะอีกครั้งผมจะเปิดบริษัท ให้บริการแอร์อีกครั้ง โดยใช้ Social Media ในการทำกาตลาด ซึ่งผมยังจำได้ดีว่า ตอนที่แจ้งเลิกกับลูกค้าไปนั้น ลูกค้าไม่อยากให้ผมเลิกกิจการ เพราะเราบริการแบบมีจรรยาบรรณ มีโอกาสผมจะทำธุรกิจนี้อีกครั้งครับ

พิมพ์เมื่อ 23/5/2554