สวัสดีครับทุกท่าน สำหรับตอนนี้ส่วนตัวแล้วผมมีความภาคภูมิใจมากๆ ที่อยากสื่อสารออกไปว่า เหตุผลใดบ้าง เราจึงได้แต่งงานกัน เพราะ "หนูนา" ลูกของภรรยาที่เธอรักนั้น กลับเป็นจุดเชื่อมโยงที่สำคัญ ที่ทำให้เธอรู้สึกดีๆ กับผม เล่าย้อนอดีตไปสัก 1 ปีที่แล้วก่อนหน้านี้ ใกล้ๆ ช่วงนี้แต่น่าจะประมาณเดือนมีนาคม 2557 "หนูนา" ลูกของเธอเข้าโรงพยาบาล เธอเล่าว่ากำลังร้องไห้ห่วงหนูนาอยู่ เพราะหมอบอกว่า ป่วยแบบไม่รู้สาเหตุต้องดูอาการ ใจเธอหายวับ ถึงกับต้องไปบนขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ระหว่างนั้นผมก็โทรศัพท์เข้าไปพอดี พอทราบเรื่องจึงขอช่วยสมทบค่าใช้จ่ายค่ารักษาพยาบาลบ้าง
เล่ามาถึงตรงนี้ ยังรู้สึกอายตัวเองอย่างมาก เพราะคิดว่าเธอพาหนูนา เข้า รพ.ของรัฐ ต่างจังหวัดคง
ไม่มากเท่าไหร่ จึงโอนเงินให้เธอน้อยนิดมาก ไม่เพียงพอกับยอดรวมทั้งหมดเพราะเยอะมาก เนื่องจากเธอห่วงหนูนามาก และต้องการให้หนูนา ได้รับการรักษาอย่างดี จึงพาไป รพ.เอกชน ประจำจังหวัด ผมมาทราบทีหลัง จึงขอโทษเธอหลังจากที่ได้ตกลงคบหากัน แต่ผมอยากให้ทุกท่านเชื่อนอานิสงฆ์ในความตั้งใจจริง ตั้งใจทำดี นะครับ อย่างที่พระท่านว่า ทำบุญน้อยทำบุญมาก ไม่สำคัญ สำคัญที่ตั้งใจ ในครั้งนั้นทำให้เธอเห็นความตั้งใจจริง ที่ผมมีต่อหนูนา จึงเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่เธอเก็บผมเอาไว้ในใจอีก 1 เรื่อง และยังเป็นเหตุผลสำคัญอันดับต้นๆ ที่เราได้รักและแต่งงานกัน เพราะเธอบอกเสมอว่า "หนูนา เป็นดวงใจ" ของเธอ
ระหว่างเราสองคน คือ "หนูนา" กับผม ที่ผมพยายามให้มีเรื่องคุยกับหนูนา ก็คือ ผมเรียกตัวเองว่า "หนูต๋อง" เนื่องจากหนูนากับผม เกิดปีชวด เหมือนกันครับ กวนเจี๊ยบเหมือนกัน ง้องแง้งเหมือนกัน ภรรยาผมบอกว่า ผมกับหนูนานิสัยเหมือนกัน จึงทำให้ดูแลง่าย เข้าใจง่าย เพราะเธอเลี้ยงหนูนามา น่าจะพอเป็นแบบนั้นเพราะเกิดปีชวดเหมือนกัน คงจะมีส่วนคล้ายกันในหลายๆ เรื่อง ปัจจุบัน หนูนาเรียกผมว่า "เตี่ย" แล้ว ดีใจมากครับ
และที่ผมพิมพ์บทความตอนนี้ ก็เพราะว่าเหมือนครบรอบเกือบ 1 ปี ที่อยู่หนูนาก็มีไข้ขึ้นสูง และหมอวอนิจฉัยออกมาแล้ว หนูนา เป็นไข้เลือดออก จึงต้อองนอนยาวหลายวัน ผมจึงตั้งใจว่า ถ้าหนูนาออกจากโรงพยาบาล ผมจะพิมพ์บทความถึง "หนูนา" ให้ได้ เพราะเท่ากับว่า "หนูนาที่เป็นดวงใจ" ของภรรยาผมนั้น ผมได้ผ่านด่านนี้สำเร็จแล้ว แต่ยังมี "แก้วตา" ของภรรยาผมอีกดวง จึงจะครบ "แก้วตา ดวงใจ" 2 คน ที่เธอรักมากี่สุด
ลองตามอ่านกันได้นะครับ ในตอนที่ 4 ว่า "แก้วตา" ของภรรยาผมคือใคร ครับ
เล่ามาถึงตรงนี้ ยังรู้สึกอายตัวเองอย่างมาก เพราะคิดว่าเธอพาหนูนา เข้า รพ.ของรัฐ ต่างจังหวัดคง
ไม่มากเท่าไหร่ จึงโอนเงินให้เธอน้อยนิดมาก ไม่เพียงพอกับยอดรวมทั้งหมดเพราะเยอะมาก เนื่องจากเธอห่วงหนูนามาก และต้องการให้หนูนา ได้รับการรักษาอย่างดี จึงพาไป รพ.เอกชน ประจำจังหวัด ผมมาทราบทีหลัง จึงขอโทษเธอหลังจากที่ได้ตกลงคบหากัน แต่ผมอยากให้ทุกท่านเชื่อนอานิสงฆ์ในความตั้งใจจริง ตั้งใจทำดี นะครับ อย่างที่พระท่านว่า ทำบุญน้อยทำบุญมาก ไม่สำคัญ สำคัญที่ตั้งใจ ในครั้งนั้นทำให้เธอเห็นความตั้งใจจริง ที่ผมมีต่อหนูนา จึงเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่เธอเก็บผมเอาไว้ในใจอีก 1 เรื่อง และยังเป็นเหตุผลสำคัญอันดับต้นๆ ที่เราได้รักและแต่งงานกัน เพราะเธอบอกเสมอว่า "หนูนา เป็นดวงใจ" ของเธอ
หนูนาเข้า รพ.อีกครั้งเมื่อ 9 ก.พ.58
ระหว่างเราสองคน คือ "หนูนา" กับผม ที่ผมพยายามให้มีเรื่องคุยกับหนูนา ก็คือ ผมเรียกตัวเองว่า "หนูต๋อง" เนื่องจากหนูนากับผม เกิดปีชวด เหมือนกันครับ กวนเจี๊ยบเหมือนกัน ง้องแง้งเหมือนกัน ภรรยาผมบอกว่า ผมกับหนูนานิสัยเหมือนกัน จึงทำให้ดูแลง่าย เข้าใจง่าย เพราะเธอเลี้ยงหนูนามา น่าจะพอเป็นแบบนั้นเพราะเกิดปีชวดเหมือนกัน คงจะมีส่วนคล้ายกันในหลายๆ เรื่อง ปัจจุบัน หนูนาเรียกผมว่า "เตี่ย" แล้ว ดีใจมากครับ
และที่ผมพิมพ์บทความตอนนี้ ก็เพราะว่าเหมือนครบรอบเกือบ 1 ปี ที่อยู่หนูนาก็มีไข้ขึ้นสูง และหมอวอนิจฉัยออกมาแล้ว หนูนา เป็นไข้เลือดออก จึงต้อองนอนยาวหลายวัน ผมจึงตั้งใจว่า ถ้าหนูนาออกจากโรงพยาบาล ผมจะพิมพ์บทความถึง "หนูนา" ให้ได้ เพราะเท่ากับว่า "หนูนาที่เป็นดวงใจ" ของภรรยาผมนั้น ผมได้ผ่านด่านนี้สำเร็จแล้ว แต่ยังมี "แก้วตา" ของภรรยาผมอีกดวง จึงจะครบ "แก้วตา ดวงใจ" 2 คน ที่เธอรักมากี่สุด
ลองตามอ่านกันได้นะครับ ในตอนที่ 4 ว่า "แก้วตา" ของภรรยาผมคือใคร ครับ